วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2561


โรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2561
พระครูวิบูลนิติธรรม
 แสดงธรรมเรื่อง ทบทวน Case Study
"ลูกมีแต่ดีขึ้น ดีขึ้น แล้วก็ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ จนน่าประหลาดใจ
เมื่อเข้าวัดพระธรรมกาย"

ห้องSPD 4 สภาฯ
******************

สว่างดีนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาทั่วโลกทุกท่านนะ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเล่าให้พวกเราฟังว่าไปทำหน้าที่เล่าธรรมะในหลายประเทศ ตั้งแต่กัมพูชา เนปาล ศรีลังกา เรื่องเดิมเรื่องเดียว กฎแห่งกรรม
เวลาไปเล่าธรรมะเรื่องนี้เมืองไทยกับต่างประเทศไม่เหมือนกัน ถ้าเมืองไทย พระอาจารย์จะเริ่มต้นว่า เราจะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม เราเกิดมาถูกกฎอย่างน้อย 3 กฎครอบงำเราอยู่ เป็นกฎประจำวัฏสงสาร ระหว่างการเวียนว่ายตายเกิด ถ้าพูดแบบนี้คนไทยก็จะมีพื้นรองรับ
กฎแรกคือ กฎไตรวัฏ ทำหน้าที่ขังสรรพสัตว์เอาไว้ คือกิเลสบังคับให้ทำกรรม มีผลของกรรมคือวิบาก ชีวิตของสรรพสัตว์ก็เวียนวนไปตามแรงของวิบากกรรม
กฎที่สองคือ กฎไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา อนิจจังก็แปรปรวนเปลี่ยนแปลงตลอด คน สัตว์ สิ่งของ ถูกขังก็ทนอยู่สภาพเดิมไม่ได้  อนัตตาก็ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง กฎนี้ก็จำกัดเวลา และตัดรอนโอกาส เรามีศรัทธาแบบนี้ เรามีความพร้อม อายุเราถ้าอยู่สัก 300 ปี เราก็สร้างบุญได้เยอะ แต่เขาไม่ให้ เขาให้แค่นี้ เฉลี่ย 75 ปี บวก ลบ ก็แล้วแต่ว่าจะขอต่อวีซ่าเท่าไหร่ อันนี้กฎที่สองนะ
กฎที่สามคือ กฎแห่งกรรม บุคคลทำกรรมใดไว้ ดีหรือชั่วก็ตาม ตนจะต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น ถ้าเราเล่าธรรมะให้ฟังที่บ้านเราก็เป็นแบบนี้ แต่ถ้าไปที่ประเทศอื่นต้องใช้ล่ามแปลให้ จะเป็นเนปาล ศรีลังกา กัมพูชา ต้องใช้ล่ามตลอด เยิ่นเย้อไม่ได้เลย เพราะพื้นฐานไม่เท่ากัน อันนี้ก็เล่าให้กันฟัง แต่ต้องเอาเรื่องที่เขาสนใจก่อน
 วันที่คนเราจะละสังขารจะเจออยู่ 4 เรื่อง เขาก็จะฟังแล้ว เจออะไรบ้าง
1. อาการทางกายภาพตอนละสังขารเป็นแบบไหน ซึ่งแต่ละคนเคยได้เห็น ได้ยิน ได้ฟังมาแล้วทั้งนั้น แต่ไม่ทราบว่าภาพรวมมีกี่ประเภท ซึ่งเราได้ยินได้ฟังคุณครูไม่ใหญ่ได้เมตตาเล่าให้ฟัง
ประเภทที่ 1 ละสังขารด้วยอาการสงบเหมือนคนนอนหลับ แล้วก็ไปเลย เพราะว่าไม่มีวิบากกรรมตามมาส่งผลตอนจะละสังขาร
ประเภทที่ 2 ละสังขารแบบเฉียบพลัน ไม่ทันตั้งตัว เพราะในอดีตมีวิบากกรรมเคยฆ่าคนและสัตว์ให้ตายแบบเฉียบพลันอยู่เป็นประจำ วิบากกรรมนั้นหนาแน่น  ก็มาส่งผลให้ละสังขารแบบเฉียบพลันบ้าง เช่น ประสบอุบัติเหตุตายในที่เกิดเหตุ หรือโรคหัวใจวายเฉียบพลัน ส่งโรงพยาบาลไม่ทัน
ประเภทที่ 3 มีทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัสก่อนจะละสังขาร ที่เป็นเช่นนี้เพราะในอดีตมีวิบากกรรมฆ่าคนและสัตว์ให้ตายอย่างทรมานอยู่เป็นประจำ วิบากกรรมที่ตามมาทัน ยังหนาแน่นอยู่ ก็ต้องได้รับทุกขเวทนาแบบแสนสาหัสก่อนจะละสังขาร
ประเภทที่ 4 ทุกขเวทนาก่อนละสังขารเบาบางลง เพราะในอดีตมีวิบากกรรมฆ่าคนหรือสัตว์ให้ตายแบบทรมาน แต่วิบากกรรมนั้นได้ส่งผลมาหลายชาติแล้ว ประกอบกับปัจจุบันสั่งสมบุญเอาไว้ บุญได้ช่องมาตัดรอนวิบากกรรมตอนใกล้ละสังขารพอดี ทำให้วิบากกรรมนั้นทุเลาเบาบางลง
อาการละสังขารโดยหลัก ๆ ก็มีอยู่ 4 กลุ่ม ซึ่งไม่ว่าชาติไหน ภาษาไหนก็มีอยู่ 4 กลุ่ม ก็เป็นบุญลาภที่คุณครูไม่ใหญ่ท่านเมตตาเล่าให้ฟัง ว่าทั้ง 4 กลุ่มมันเกิดจากกรรมอะไรบ้าง อันนี้เป็นสิ่งแรกที่ต้องเจอในวันละสังขาร คืออาการทางกายภาพตอนละสังขารเป็นแบบไหน
2. สภาพใจตอนที่จะละสังขาร
สภาพใจแบบที่ 1 ดีที่สุดเลย ใสตลอด มีแต่เรื่องดี ๆ มาปรากฏ ถ้าอย่างพวกเราก็ตั้งแต่ปากประตูทางเข้าวัดมา มองอะไรไปเราได้สร้างบุญเอาไว้ตลอด มีแต่ภาพเหล่านี้มาปรากฏ จิตผ่องใส อย่างอื่นไม่มีอะไรแทรกเลย ละสังขารก็ไปสูงตามกำลังบุญ หรือตามความปรารถนา
สภาพใจแบบที่ 2 มันสลับไปสลับมาระหว่างผ่องใสกับเศร้าหมอง แต่ส่วนมากก็ผ่องใส มีเศร้าหมองแทรกบ้าง อันนี้ก็มักไปสูงไม่เต็มที่ แต่ก็ยังไปสู่สุคติอยู่ ไปสูงไม่เต็มที่ มีหมองผสมอยู่ แต่สุดท้ายใส
สภาพใจแบบที่ 3 สภาพใจไม่ใส ไม่หมอง พอละสังขารแล้วจะไม่ไปสุคติ หรือทุคติทันที เพราะบุญ-บาปยังไม่ส่งผล ก็เป็นกายละเอียดหลุดออกมา วนเวียนในโลก 3 วันบ้าง 5 วันบ้าง 7 วันบ้าง รอบุญและบาปส่งผล อันนี้เราได้ฟังจากคุณครูไม่ใหญ่บ่อย ๆ นะ
สภาพใจแบบที่ 4 ใจหมองตลอด วีรกรรมเยอะ ผิดศีลบ้าง อบายมุขบ้าง ไม่รู้วิชชาชีวิต ก่อบาปอกุศล ใจหมองตลอด ละสังขารแล้วก็ไปอบาย ลึกเต็มที่ตามกำลังบาป
สภาพใจแบบที่ 5 เป็นสภาพในที่ปนเปไปมา เศร้าหมองบ้าง ผ่องใสบ้าง ไม่หมองไม่ใสบ้าง แต่เศร้าหมองมากกว่าผ่องใส ก็ไปอบาย แต่ก็ลึกไม่เต็มที่ ยังมีส่วนที่เป็นบุญดึงเอาไว้
3. รูปกายใหม่หลังจากละสังขารไปแล้ว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ 5 รูปกายหลัก ๆ เรียกว่าคติ 5 ประกอบด้วย เทวดา มนุษย์ สัตว์เดรัจฉาน เปรต และสัตว์นรก
เราก็เข้าเรื่องเลย เทวดาเป็นอย่างไร โดยใช้สื่อโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาที่คุณครูไม่ใหญ่เมตตาเอามาใช้ ในต่างประเทศก็ตื่นตาตื่นใจ ไม่เคยเห็น อานิสงส์ของบุญเรื่องนั้น เรื่องนี้ เรื่องโน้น ค่อย ๆ อธิบายทีละกาย รูปกายเทวดา ธรรมชาติความเป็นอยู่ของเขา การเกิดของเขา เขาอยู่กันอย่างไร จุติยังไง อะไรเป็นสาเหตุให้จุติ
แล้วก็เรื่องมนุษย์ ก็พูดถึงสุขและทุกข์ของมนุษย์มีอะไรบ้าง ประโยชน์ที่มนุษย์พึงทำได้คือประโยชน์ 3 ประการ ประโยชน์ในโลกนี้ ประโยชน์ในโลกหน้า และประโยชน์อย่างยิ่ง
แล้วก็เล่าถึงชีวิตของสัตว์เดรัจฉาน ชีวิตของเปรต ชีวิตของสัตวนรก แล้วเปิดสื่อประกอบ เราค่อย ๆ ให้เขาเรียนรู้เรื่องชีวิตหลังความตายมีอะไรบ้าง แล้วไปเกิดแต่ละประเภทก็ต้องมีเหตุที่นำไป
ไปเกิดเป็นเทวดาก็เล่าถึงบุญกิริยาวัตถุ 10 ประการ  ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เปรต สัตว์นรก ก็เล่าถึงอกุศลกรรมบถ 10 ประการ คือ กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต   พูดถึงอบายมุข 6 ประการ   เล่าถึงมิจฉาวณิชชา 5 ประการ อาชีพที่ทำให้เกิดบาป  
เล่าถึงอุปกิเลสในบางข้อ ที่มันมีผลมาก ๆ เราได้ฟังบ่อย ๆ เช่น เรื่องตระหนี่ ตระหนี่นี่ในอกุศลกรรมบถ 10 ก็ไม่มี อบายมุข 6 ก็ไม่มีตระหนี่ มิจฉาวณิชชา 5 ก็ไม่มีตระหนี่ มันมาอยู่ในอุปกิเลส 16 ประการ เป็นต้น นี่เหตุที่ทำให้ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เปรต สัตว์นรก
ประการสุดท้าย คือสถานที่ อยู่ที่ไหนกันบ้างโลกหน้า ก็ได้เรื่องพระพุทธเจ้าเปิดโลกแล้วก็ค่อย ๆ ขยายความ นี่เป็นการเล่าเรื่องกฎแห่งกรรมสำหรับชาวต่างชาติ ต้องเข้าเรื่องเลย เรื่องที่เกี่ยวกับเขาเลย แล้วต้องค่อย ๆ ดึงเข้ามา แต่ถ้าเป็นพวกเราก็จะค่อย ๆ ไปตามลำดับ

วัดนี้โตมาด้วยการอบรมธรรมทายาท พระอาจารย์มาอบรมธรรมทายาทครั้งแรก ปี 2525 ธรรมทายาทรุ่นที่ 10 ตอนนั้นยังเรียนไม่จบ พื้นที่วัดมี 196 ไร่ เริ่มขยายออกมาบ้าง แต่ยังไม่พัฒนา คือพื้นที่ 130 ไร่ ที่ตั้งอาคารหอฉันคุณยายฯ อาคาร 100 ปี ตึกสงฆ์ เริ่มขยายออกมา เริ่มพัฒนา อบรมธรรมทายาทในวัด 196 ไร่ ที่ปักกลดอยู่ริมกำแพง หลังวัด ส่วนที่ปฏิบัติธรรมก็ที่ศาลาจาตุมหาราชิกา ไม่มีฝาผนัง
ตอนเช้าตื่นตี 3.45 น. ทำภารกิจส่วนตัวแล้วก็เดินมาเรื่อย ๆ มาถึงศาลาจาตุมหาราชิกา ประมาณตี 4 มาทีไรก็มาทีหลังหลวงพ่อทัตตะทุกที ท่านนั่งรอแล้วทุกที ท่านนั่งตัวตรงเลย พอนั่งปุ๊บ ยุงมาเลย ยุงที่วัดพระธรรมกายมันไม่กัด แต่มันเจาะที่แขนเต็มไปหมด ศาลาจาตุฯ ไม่มีฝา ไม่รู้ว่าอยู่มาได้อย่างไร
แต่เนื่องจากพระอาจารย์อบรมมีหลวงพ่อเพียงรูปเดียว เพราะฉะนั้นต้องปกครองอีกแบบหนึ่งคือต้องเอาจริง ถ้าไม่เอาจริงก็ไม่เป็นไรก็ให้กลับบ้าน แต่ระยะหลังมีพระอาจารย์ พระพี่เลี้ยงใจดี คอยประคบประหงม เมื่อก่อนไม่ไหวไม่ว่ากัน ก็กลับบ้านไป เดี๋ยวนี้ใครเข้าห้องน้ำ ก็เอาบัตรจากพระพี่เลี้ยงใบหนึ่งไป ขากลับก็เอาบัตรมาวาง ถ้าใครถือบัตรไปนานนี่รู้นะ
สมัยก่อนยังไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์ เราก็จะเจอแกงส้มปลากระป๋องบ่อย ๆ ปานะก็มีน้ำกระเจี๊ยบ น้ำมะตูม มีอยู่แค่นี้ แต่นึกไปแล้วก็ปลื้มใจ ขนาดนั้นยังประคับประคองกันมาได้
ที่ปักกลดก็เป็นอย่างเดียวกัน กลดเป็นผ้า แต่สมัยนี้ใช้เต็นท์ที่กันฝุ่นได้ สมัยก่อนเป็นผ้า แล้วแจกพลาสติก 3 ผืน เอาไว้ปิดกันฝน 2 ผืน รองพื้นอีก 1 ผืน
คน, มด, ตะขาบ, งู อยู่ร่วมกัน ปรึกษาพี่เลี้ยง พี่เลี้ยงเป็นอุบาสกก็บอกว่าให้รักษาศีลให้ดี เราก็คิดว่าจะไม่มีผูกเวรกันบ้างเหรอ งูก็เป็นงูเห่า ตัวขนาดเท่าด้ามจอบ เดินมาเราเห็นมัน มันก็เห็นเรา ไม่ได้ไล่ ไม่ได้ตีมันนะ คือต่างคนต่างอยู่จริง ๆ เลย
ก็ผ่านมาได้ถึงวันนี้ นั่นเป็นบรรยากาศในสมัยก่อน ถึงได้มองคนรุ่นหลังเขามีบุญจังเลย ได้นั่งห้องปรับอากาศ ยุงก็เข้ามาไม่ถึง อาหารก็มีให้เลือกหลายอย่าง ดีกว่า บางทีก็มีโยมพ่อ โยมแม่เอาอาหารพิเศษมาเสริม นึกถึงสมัยโน้น แต่สมัยนั้นก็คงเอามาใช้กับสมัยนี้ไม่ได้ สงสัยกลับกันหมด นึกแล้วก็ปลื้มใจ ที่ประคับประคองมาได้

ช่วงที่ 2  Case study
ลูกเป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ที่มีความรู้สึกอยากจะแบ่งปันประสบการณ์ที่ดี ๆ ที่บังเกิดขึ้นกับชีวิต ซึ่งหากใครจะลอกเลียนแบบก็ไม่ขอสงวนลิขสิทธิ์นะครับ
ลูกทำงานด้านอสังหาริมทรัพย์มานานถึง 12 ปี มีความรักและชอบในงานด้านนี้มาก ทั้ง ๆ ที่จบมาทางด้านกฎหมาย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ต้องใช้ความรับผิดชอบสูง คือ เป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของบริษัท ต้องดูแลแทบทุกเรื่อง จนบางทีรู้สึกกดดันมาก เพราะโจทย์ของลูก คือ ทำอย่างไรหรือวิธีการใดก็ได้ให้ขายบ้านได้
แม้จะอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ทุกอย่างที่ไม่อำนวย และภาวะการแข่งขันทางการตลาดที่สูงมาก เพราะทำเลของโครงการบ้านที่ลูกจะต้องขายให้ได้ ถูกแวดล้อมไปด้วยโครงการระดับใหญ่ ๆ หรูหรา อลังการ ล้วนมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับกันในระดับ Top five
แถมโครงการของลูกเมื่อเอาไปเทียบกับคู่แข่งแล้ว ราคาค่อนข้างแพงกว่ามาก อีกทั้งภายใน 1 ไตรมาส ลูกจะต้องขายบ้านราคาประมาณหลังละ 7 ล้านบาท ให้ได้ทั้งหมด 12 หลัง ก็ 84 ล้าน ตามเป้าที่ตั้งไว้ ซึ่งสภาพเศรษฐกิจแบบนี้หากขายได้ก็หืดขึ้นคอทีเดียว กว่าจะขายได้
และแล้วกาลเวลาก็ผ่านเลยไป กลืนกินสรรพสิ่งไปเรื่อย ๆ กระทั่งปาเข้าไปได้ 2 เดือนแล้วครับ แต่ลูกกลับขายบ้านได้เพียงแค่หลังเดียว จนลูกรู้สึกเฉาชีวิต กดดันขนาดนั้นเลยครับ รู้สึกเครียด ๆ  
จนกระทั่งตอนสายของวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2547 ลูกก็ได้ทราบข่าวว่า ที่วัดจะมีการถวายปัจจัยพระเดชพระคุณหลวงพ่อเพื่อทำบุญเสาแก้วพันปี ลูกจึงไม่รอช้า รีบบึ่งรถมาทันที เพื่อทำบุญให้คุณพ่อ-คุณแม่ และที่ลืมไม่ได้ก็คือ อธิษฐานจิตให้ขายบ้านได้ แถมท้ายด้วยการขอให้โรคที่เป็นอยู่หายในฉับพลันด้วยครับ
หลังจากทำบุญเสร็จก็กลับไป ภายในวันนั้นเอง มีเหตุการณ์ที่ทำให้ลูกถึงกับทึ่งตะลึงอย่างเป็นประวัติการณ์ วันนั้นเอง คือ ลูกสามารถขายบ้านได้ถึง 5 หลัง  ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่มีวี่แววมาก่อนเลย จนลูกรู้สึกติดใจ ชัก Alert ดังนั้นในวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ.2547 ลูกจึงตัดสินใจมาทำบุญสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวประดิษฐานภายในเจดีย์พร้อมภรรยาอีก 2 องค์  และอธิษฐานให้ขายบ้านได้อีก จากนั้นลูกก็เข้าไปที่โครงการ ปรากฏการณ์ทึ่งตะลึงเกรียวกราวกันมาอีกครั้งหนึ่ง คือ ลูกขายบ้านได้อีกแล้วครับ ครั้งนี้ขายได้ถึง 4 หลัง รวมกันเป็น 9 หลัง หลังจากนั้นไม่นาน ก็ขายได้อีก 2 หลัง ได้ครบตามเป้าหมายเลย
มาถึงวันนี้ ลูกต้องขอสารภาพกับคุณครูไม่ใหญ่อย่างหนึ่ง คือ เมื่อก่อนลูกน่ะเป็นคนไม่ชอบวัด ไม่เข้าใจวัด วัดในที่นี้เฉพาะวัดพระธรรมกายนะ แต่หลังจากที่เข้าวัดแล้ว ชีวิตลูกมีแต่ดีขึ้น ดีขึ้น แล้วก็ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ จนน่าประหลาดใจ เช่น อยู่ ๆ ทางบริษัทก็พิจารณาให้บ้านเดี่ยวราคา 6.8 ล้านบาท 1 หลังฟรี ๆ กับลูก และยังให้รถประจำตำแหน่งอีก 1 คัน ซึ่งถ้าเทียบอายุงานแล้ว ลูกจะต้องทำงานนานกว่านี้มากครับถึงจะได้ แต่นี่ปรากฏว่ากลับได้เร็วกว่าที่กำหนด นอกจากนี้ทางบริษัทยังอนุมัติให้เงินสดเพื่อปลดหนี้สินของลูกอีกด้วยครับ  เห็นไหม หมดหนี้ หมดสิน เหลือกิน เหลือใช้ เหลือไว้สร้างบารมีนะ
จากการเข้าวัดพระธรรมกาย ทำให้ลูกได้เรียนรู้อยู่อย่างหนึ่งคือ ถ้าช่วงไหนลูกนั่งสมาธิมาก อุปสรรคทางด้านการงานก็มีน้อยมาก แต่หากช่วงไหนนั่งน้อย โดยลูกอ้างกับตัวเองว่างานเยอะ ไม่ค่อยจะมีเวลา  ช่วงนั้นไม่รู้เป็นอย่างไร ดูเหมือนมีแต่อุปสรรคเข้ามาเต็มไปหมดเลย ซึ่งก็เป็นเรื่องแปลก แต่จริง หากไม่ได้พิสูจน์กับตัวเองก็ไม่อาจจะเข้าใจได้ครับ
พ่อของลูก เมื่อสมัยหนุ่ม ๆ มีอาชีพรับจ้างขนฝิ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ท่านทำอาชีพนี้จนกระทั่งได้มาแต่งงานกับคุณแม่จึงเลิก หันมาทำอาชีพเกษตรกรรม แต่คุณพ่อเป็นคนดื่มเหล้าสูบบุหรี่มาก จนกระทั่งอายุ 60 ปี ท่านจึงตัดสินใจเลิก แต่ขณะเดียวกันก็รักการทำบุญ ท่านจะตักบาตรทุกเช้า บริจาคที่ของท่านเองให้สร้างวัด แต่ช่วงบั้นปลายชีวิตท่านเป็น อัมพฤกษ์ และกลายมาเป็นอัมพาตในที่สุด ทนทรมานอยู่ถึง 3 ปี ก็จากไป
คุณแม่ของลูก เป็นคนรักการทำบุญเหมือนคุณพ่อ แต่หลังจากได้แต่งงานกับคุณพ่อแล้ว มีลูกด้วยกันเพียง 10 คน จึงมีความจำเป็นต้องหารายได้มาส่งลูก ๆ เรียน ด้วยการต้มเหล้าขาย จนกระทั่งลูกเรียนจบพอช่วยตัวเองได้แล้ว ท่านก็เลิก และคุณแม่ยังเคยสูบบุหรี่แบบยาเส้นมาระยะหนึ่ง จนเลิกได้ในภายหลัง แต่สุดท้ายท่านก็จากไป ด้วยโรคมะเร็งปอด
ลูกสาวคนโตของลูก ปัจจุบันอายุ 11 ปี สูง 145 แต่น้ำหนัก 53 กิโลกรัม อย่างนี้ประกวดมิสยูนิเวิร์สได้ จัดว่าเป็นเด็กอ้วนมาก และตั้งแต่เกิดจนกระทั่งปัจจุบันนี้ เขาจะปัสสาวะรดที่นอนโดยไม่รู้สึกตัว ไม่ว่าจะแก้ไขอย่างไรก็ไม่หายครับ
ส่วนลูกสาวคนเล็ก อายุ 3 ขวบ แต่เป็นโรค 3 วันดี 4 วันไข้ เจ็บออด ๆ แอด ๆ เป็นภูมิแพ้ และปวดขาข้างซ้ายเป็นประจำ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะแก้ไขอย่างไรดีครับ ถ้ายังไม่รู้ว่าจะแก้ไขอย่างไร มาทำบุญก่อนเลยทำไปเรื่อย ๆ บุญก็จะไปตัดรอนวิบากกรรมแล้วมันจะทำให้ เรามีช่องทาง จะได้หมอดียาดี หรือรู้วิธีที่จะรักษาให้หายได้ หนักก็จะเป็นเบา พอเบาแล้วก็จะหายนะ
คำถาม
เหตุใด หลังจากทำบุญบุญเสาแก้ว ภายในวันเดียวกัน ลูกถึงสามารถขายบ้านได้ถึง 5 หลัง ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่มีวี่แววเลย และหลังจากกลับมาจากการทำบุญสร้างองค์พระ ก็ขายบ้านได้อีก 4 หลัง เหตุใดถึงเป็นเช่นนั้น   
ถ้าเป็นเพราะบุญจริง ๆ จะเป็นอย่างนี้ทุกครั้ง และกับทุกคนหรือไม่ครับ ...มีตัวแปรอะไรบ้าง ตัวการเกี่ยวกับการส่งผลของบุญครับ เพราะบางคนทำบุญแต่บุญก็ไม่ได้ส่งผลทันที บางคนทำบุญแล้วปรากฏว่าแถมเกิดเรื่องร้าย ๆ เข้ามาในชีวิตทันทีเสียอีก เช่น เกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น ขอความเมตตาหลวงพ่ออธิบายเพิ่มเติมเรื่องอานุภาพแห่งบุญ ที่ส่งผลในทันทีด้วยครับว่า มีกลไกการทำงานอย่างไรครับ
บุญอะไรทำให้ลูกได้บ้านมาฟรี ๆ ราคา 6.8 ล้าน มีรถประจำตำแหน่งใช้ และเพราะกรรมอะไรถึงมีรถใช้อย่างสบาย แต่ไม่ได้เป็นสมบัติของตัวเองอย่างแท้จริง เขาเอามาให้ยืมใช้ ยิ่งให้รถเมื่อไหร่เตรียมไว้ให้ดีทีเดียว งานหนักจะมา พอได้รถปั๊บ จาก 12 หลัง ก็ต้อง 24 หลัง และทำไมลูกถึงรักอาชีพนี้มากครับ สามารถทำงานได้ดีทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เรียนด้านนี้มาก่อนเลย เพราะเรียนกฎหมายมา
ทำไมช่วงที่ลูกนั่งสมาธิมาก อุปสรรคถึงน้อย แต่พอช่วงไหนนั่งสมาธิน้อย อุปสรรคกลับมาก เหตุใดถึงเป็นเช่นนั้น และถ้าลูกนั่งสมาธิมากขึ้นกว่าเดิมอีก จะส่งผลให้ธุรกิจเจริญขึ้นได้อย่างไร นี่ต่อรองกันเลย คือถ้านั่งแล้วเป็นแบบบัญญัติไตรยางศ์ก็จะได้นั่ง คือถ้า ถ้ามันไม่อดก็พอจะทนได้นะ แต่ถ้าทน ๆ ไป ทนนั่งไปแล้วมันอด ก็ไม่อยากจะอดทน อย่างนั้นหรือเปล่าก็ไม่รู้ ที่ถามอย่างนี้ คือถ้ารู้ว่ามันไม่อดนี่ ก็พอจะทน แต่ถ้าหากว่ารู้ว่าอดก็จะไม่ทน ลูกจะได้ไปแนะนำหมู่ญาติให้นั่งสมาธิกันเยอะ ๆ เพื่อชีวิตจะได้เจริญก้าวหน้าได้ด้วยวิธีการง่าย ๆ
บุพกรรมใดที่ทำให้คุณพ่อเป็นอัมพาต และคุณแม่เป็นมะเร็งปอด คุณพ่อ คุณแม่ตายแล้วไปไหน ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง หลังจากทำบุญเสาแก้วอุทิศให้ท่านทั้งสอง ท่านมีอะไรอยากฝากบอกไหมครับ
บุพกรรมใดที่ทำให้ลูกสาวคนโตเป็นโรคอ้วน และปัสสาวะรดที่นอนมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ และลูกสาวคนเล็กเจ็บออด ๆ แอด ๆ ปวดขาข้างซ้ายอยู่เป็นประจำ ส่วนตัวผมปวดหัว ท้ายทอยและปวดกระบอกตาด้านขวามาตลอด แต่พอทำบุญแล้วมีอาการดีขึ้น ซึ่งแต่ละคนต้องแก้ไขวิบากกรรมอย่างไรครับ มีสิทธิ์หายในชาตินี้หรือไม่ครับ จะได้ทำใจได้นะ
บุพกรรมใดที่ทำให้ลูกรู้สึกไม่ชอบและไม่เห็นด้วยกับวัดในตอนต้น แต่ตอนหลังกลับเข้าใจ ลูก-ภรรยาพร้อมกับลูกทั้ง 2 สร้างบารมีกับหมู่คณะมาในรูปแบบใดครับ หากต้องการติดตามสร้างบารมีกับหมู่คณะไปทุกภพทุกชาติจะต้องทำอย่างไรครับ
...........
ชาวโลกเขาไม่รู้ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้ ไม่รู้ว่ากว่าจะได้อัตภาพมนุษย์มันยากมาก อัตภาพก่อนมาเป็นมนุษย์มาจากสุคติหรือทุคติ รูปกายก่อนหน้ามันนาน มาจากสุคติ เช่น มาจากเทวดา อายุเขาเป็นล้านปีทั้งนั้นเลย หลายสิบ หลายร้อย หลายพันล้านปีก็มี กว่าจะหมดบุญ หมดอายุขัย แล้วได้อัตภาพมนุษย์ต้องใช้เวลานานหลายล้านปี กว่าจะได้อัตภาพมนุษย์ครั้งหนึ่ง นี่มาจากสุคตินะ
ส่วนมาจากทุคติยิ่งยาวนาน ตั้งแต่สัตว์นรกในมหานรก เป็นอุสสทนรก เป็นยมโลก มาเป็นเปรต มาเป็นสัตว์เดรัจฉานขนาดเล็ก ค่อย ๆ พัฒนาขึ้นมา แล้วมาเป็นมนุษย์ อันนี้ยิ่งยาวนานกว่าหลายเท่า เปรียบกันไม่ได้เลย คืออัตภาพก่อนหน้าการเป็นมนุษย์มันยาวนานมาก กว่าจะหลุดมาเป็นมนุษย์ครั้งหนึ่งมันยากมาก
ครั้นพอมาเป็นมนุษย์แล้ว โดยภาพรวมนะ ประเทศที่มีความรู้เรื่องการเวียนว่ายตายเกิด เรื่องกฎแห่งกรรมมีไม่เยอะ และในบรรดาที่มีไม่เยอะ เมื่ออยู่ในประเทศนี้ แล้วได้ฟังธรรม มีศรัทธาอันยิ่ง ถึงพร้อมด้วยวัตถุทานและเนื้อนาบุญก็มีน้อยมาก ยากมาก
และพอมารู้เรื่องอย่างนี้แล้ว นักสร้างบารมีก็สร้างบุญบารมีกันอย่างเต็มที่เลย เพราะเวลามีจำกัด อยู่ไม่นานก็หมดอายุขัยแล้ว เฉลี่ยก็ 75 ปี นับถอยหลังเราเหลือกี่ปี
แต่ผู้ที่ไม่รู้สิ แต่ละวันก็หวังแต่ความเจริญก้าวหน้าอาชีพการงาน อะไรเป็นบุญ เป็นบาปไม่รู้ อุตส่าห์เกิดมาเป็นมนุษย์ได้ซึ่งมันแสนยากนะ แต่ว่าน่าเสียดาย เวลาผ่านไปแต่ละวันคิดแต่เรื่องเป็นบาป เป็นอกุศล ก็ทำตามหน้าที่เพื่อหวังความเจริญก้าวหน้า เนี่ยเสียดายแทน เรามาฟังคำตอบกันดีกว่านะ

ช่วงคำตอบ....Case study...
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา (หาว 1 ที) แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปราจ้า
เหตุที่ทำบุญสร้างเสาแก้วพันปีแล้ว ในวันเดียวกัน ลูกก็สามารถขายบ้านได้ 5 หลัง โดยมีราคาหลังละ 7 ล้าน ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่มีวี่แววเลย เพราะบุญในอดีตและบุญปัจจุบันมารวมส่งผลพร้อมกัน
บุญในอดีต คือ บุญที่ลูกเคยทำทานด้วยตนเอง และก็ไปชวนคนอื่นมาทำกับหมู่คณะนี่แหละจ๊ะ รวมกับบุญสร้างเสาแก้วพันปีกับหมู่คณะในปัจจุบันนี้ มารวมส่งผล
และภายหลังจากวันนั้นก็มาสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวอีก ก็ทำให้ขายบ้านได้อีก 4 หลัง เพราะบุญในอดีตดังกล่าว กับบุญปัจจุบันที่สร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวมารวมส่งผล
การที่เป็นอย่างนี้ก็ไม่ได้เป็นอย่างนี้ทุกครั้งและกับทุกคน เพราะไม่ได้เป็นอย่างนี้ทุกครั้งและกับทุกคนนะจ๊ะ เพราะมีตัวแปรอย่างน้อย 3 ประการ คือ
1. สิ่งที่เราปรารถนาหรืออานิสงส์ที่เราจะได้ เมื่อเปรียบเทียบกับกำลังบุญแล้วต้องพอเหมาะกัน เช่น สิ่งที่ปรารถนาใหญ่ กำลังบุญต้องใหญ่ตามพอเหมาะกันด้วย บ้านราคา 7 ล้าน ต้องมีเงิน 7 ล้าน จึงจะซื้อได้ ถ้ามีเงินล้านหนึ่งอย่างนี้ก็ซื้อไม่ได้ หรือสองแสนอะไรอย่างนี้ สิ่งที่เราปรารถนาหรืออานิสงส์ที่เราจะได้ เมื่อเปรียบเทียบกับกำลังบุญแล้วต้องพอเหมาะกัน
2. บุญในอดีตทางด้านนั้น ๆ มีมามากขนาดไหน เช่น บางคนชวนคนทำทาน แล้วทำด้วยตนเองด้วย ทำบุญด้วยตัวเองด้วย ทำบุญอย่างที่ได้ตั้งใจ คือถึงเป้าหมายที่ตัวเองตั้งใจไว้ว่า จะทำบุญ ตั้งใจจะทำ 10 องค์ ก็ทำให้ได้ 10 องค์ แล้วก็ไปชวนคนอื่นมาทำด้วย ตั้งเป้าไว้อย่างไรก็เข้าเป้า ตั้งเป้าต้องเข้าเป้า ไม่ลดเป้าลงมา เวลาบุญส่งผลก็จะได้สมบัติตามเป้าที่ตัวเองตั้งไว้ ถ้าตั้งใจไว้ 10 แล้วทำเต็ม 10 แต่ว่าตั้งใจไว้ 10 ทำ 100 อันนี้ได้เกินกว่าที่ตั้งใจไว้ ถ้าตั้งเป้าไว้ 10 ทำ 2 อะไรอย่างนี้มันก็ได้หย่อนลงมา
3. บุญที่ทำในปัจจุบันได้เติมลงไปอีกจนเต็มเปี่ยม เติมบุญเก่า สมมุติบุญเก่าทำมาเกือบเต็ม บุญปัจจุบันทำเติมลงมาเต็มเปี่ยมในระดับพอเหมาะกับสิ่งที่ตัวปรารถนา ถ้าบุญเก่าน้อยก็ต้องเติมบุญปัจจุบันให้มาก ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นบุญเก่าก็จะให้ผลได้เร็วกว่าบุญใหม่ บุญเก่าจะให้ผลได้เร็วกว่าบุญใหม่ เพราะบุญเก่านั้นได้ทำงานมาก่อนล่วงหน้า
เหมือนการปลูกต้นไม้ที่ได้ปลูกมานานแล้วรอคอยแต่เวลาส่งผล บุญเก่าทำงานมาแล้ว ส่วนต้นไม้ปลูกใหม่ก็ต้องรอคอยนานหน่อย คือ ต้องให้บุญมีเวลาทำงานด้วย
บุญและบาปจะรอคอยทยอยการส่งผลเมื่อได้ช่อง ถ้าบุญได้ช่องก่อนจะส่งผลดี ถ้าบาปได้ช่องก่อนก็จะส่งผลร้าย จะชิงช่วงช่วงชิงกันอย่างนี้ดังกล่าว
ดังนั้นในกรณีที่ทำบุญแล้วเจออุบัติเหตุ เพราะบาปเก่าส่งผลก่อนบุญใหม่ที่จะส่งผลจ๊ะ พอบุญ-บาป บาป-บุญมันชิงช่วง ช่วงชิงกันอยู่อย่างนี้ อะไรที่มันเสียบมาก่อน เลยหน้าก่อน อันนั้นก็ส่งผลก่อน มันเป็นอย่างนี้
เพราะฉะนั้นเป็นความทุกข์ของนักบุญว่า  เพิ่งทำบุญหยก ๆ ไหงกลับไปเนี่ย หมาเห่า อะไรอย่างนี้ หรือ เพิ่งทำบุญไปหยก ๆ พอออกไป เดินผ่านต้นมะม่วง มะม่วงหล่นตุ๊บมาโดนหัวอะไรอย่างนี้
ลูกได้บ้านราคา 6.8 ล้านบาท และก็ได้รับรถประจำตำแหน่งใช้ ก็เพราะบุญเก่าที่เคยทำ มารวมกับบุญปัจจุบันดังกล่าว ไม่มีอะไรในโลกที่เราจะได้มาฟรี ๆ ทุกอย่างล้วนต้องประกอบเหตุทั้งสิ้นจึงจะมีผล คือต้องสั่งสมบุญมา
โลกนี้เป็นโลกแห่งการแลกเปลี่ยน เราต้องให้ไปก่อนแล้วเราจึงจะได้ ไม่มีอะไรได้มาฟรี ๆ ต้องได้มาเพราะบุญเก่าที่ตัวได้ประกอบเหตุไว้ในภพก่อน แต่ตัวลืมไป แล้วก็ไม่มีความรู้ที่จะไประลึกดูว่าเคยประกอบเหตุอะไร ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่จะได้มาฟรี ๆ จะต้องประกอบเหตุ ชีวิตในวัฏฏะมีแต่เหตุกับผล ประกอบเหตุอย่างนี้ ก็จะมีผลอย่างนี้ เจอผลอย่างนี้เพราะได้ไปประกอบเหตุอย่างนั้น
บุญที่ได้รถมาใช้ แต่ไม่ได้เป็นสมบัติของตัว ก็เพราะบุญที่ลูกได้เป็นกัลยาณมิตรชวนเขามาทำบุญ แล้วตัวเองก็ได้มาร่วมถวายทานเขาด้วย คือร่วมจบกับเขา เช่น “นี่ภัตตาหาร เธอ ๆ ไปทำบุญเลี้ยงพระสิ   ที่วัดพระธรรมกายมีพระร่วม 2 พันพระเณรตอนนี้  เขาก็มาถวาย พอเขาเอามาถวาย ก็ไปร่วมถวายด้วย แต่ไม่ได้ทำเอง คือแค่ร่วมจับ ไปจับไปจบกับเขา อย่างนี้ไง อย่างนี้เคลียร์ไหม เช่น ชวนคนมาทำบุญ แต่ตัวเองไม่ได้ทำ แค่ร่วมจับพานหรือจับปัจจัยถวายร่วมกับเขา ดังนั้นเมื่อบุญส่งผลจึงมีรถประจำตำแหน่งใช้ แต่ไม่ได้เป็นสมบัติของตนเอง คือได้มาใช้ ให้ขอยืมใช้ แต่ไม่ใช่ให้เลย ให้ยืมใช้ พอใช้รถก็ต้องทำงานสะบั้นหั่นแหลกเลยคราวนี้ ทำงานให้เขา
เหตุที่ลูกรักอาชีพนี้ และทำได้ดีทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ศึกษามาก่อน เพราะมีอุปนิสัยชอบค้าขายมาข้ามชาติ มีวิญญาณนักธุรกิจ บางทีไม่ต้องไปศึกษาที่ไหน มันรู้เองว่าจะจะพูดอย่างไร จะขายอย่างไร บุญเก่าข้ามชาติ กอปรกับเป็นคนมีปัญญา เป็นคนช่างคิด ช่างวางแผน มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีและก็มีบุญเก่าที่ทำมาแล้ว จึงทำได้ดีจ๊ะ
ทุกอย่างเห็นไหมจ๊ะว่าจะต้องประกอบด้วยบุญเก่าเป็นหลัก นอกนั้นเสริม บุญถึง นอกนั้นก็ทีมถึง ใจถึง อะไรต่าง ๆ เป็นเครื่องเสริม แต่บุญถึงเป็นหลัก
ช่วงที่นั่งสมาธิมากก็ทำให้บุญเก่ามีโอกาสส่งผลได้ง่าย คือเปิดโอกาสให้บุญเก่าส่งผลได้ง่าย บุญเก่ามาเชื่อมบุญใหม่ได้ง่ายจึงมีอุปสรรคน้อย สมาธิทำให้เกิดปัญญา ซึ่งจะทำให้เราสามารถวินิจฉัยหรือคาดการณ์อะไรต่าง ๆ ได้ถูกต้อง จะคิด จะพูด จะทำอะไร เมื่อตั้งอยู่บนฐานของใจที่สบายแล้ว ความสำเร็จก็จะเกิดขึ้นง่าย กอปรกับบุญเก่าใหม่ก็รวมส่งผลได้ง่าย การทำสมาธิก็คือการเปิดโอกาสให้บุญเก่ากับบุญใหม่มาเจอกันแล้วก็ส่งผลอย่างนี้ไง
คุณพ่อเป็นอัมพาต เพราะกรรมสุราและฆ่าสัตว์เพื่อกินและขายทั้งอดีตและปัจจุบันมาส่งผล
คุณแม่เป็นมะเร็งปอด เพราะกรรมสูบบุหรี่และฆ่าสัตว์ทั้งอดีตและปัจจุบันมาส่งผลจ๊ะ ฆ่าสัตว์ทำอาหาร
คุณพ่อ และคุณแม่ตายแล้วก็ไปเป็นภุมเทวาสายยักษ์ ระดับธรรมดา อยู่ที่หมู่บ้าน ภุมเทวาสายยักษ์แห่งหนึ่งด้วยกัน ได้รับบุญที่ทำเสาแก้วพันปีให้ ก็ทำให้ท่านมีปีติเบิกบาน และมีสภาพดีขึ้นกว่าเดิม ทั้งที่อยู่อาศัย เสื้อผ้า อาหาร ทิพยสมบัติ ท่านทั้งสองดีใจมากที่ลูกชายคิดถึงและทำบุญอุทิศไปให้ อยากได้อีกจ๊ะ อยากได้อีกก็ทำไปอีก
ลูกสาวคนโต มีวจีกรรมในอดีต โดยตอนเด็กในชาตินั้นเป็นคนสวย ปากสวย แต่คำพูดที่พูดผ่านปากสวยนั้นเสีย ชอบล้อเลียนและแกล้งเพื่อนที่อ้วนและปัสสาวะรดที่นอนให้เขาได้อับอายเสมอ ดังนั้นเมื่อกรรมตามมาส่งผล จึงได้เจอปรากฏการณ์ดังกล่าวบ้าง นี่ คนสวย
ลูกสาวคนเล็กเจ็บออด ๆ แอด ๆ และปวดขาข้างซ้ายเป็นประจำ เพราะกรรมในอดีตชอบฆ่าสัตว์เล็ก สัตว์น้อย เช่น บี้มด ตบยุง อยู่เป็นประจำ ใครบี้มด ตบยุงเป็นประจำบ้าง เตรียมตัวไว้ บางทีล่ะบางที นาน ๆ ทีล่ะ นาน ๆ ที แล้วทีละนาน ๆ ล่ะ อีกทั้งเคยเอาไม้ตีขาสุนัขจนขามันกะเผลก เพราะมันแอบมากินเนื้อที่ตากไว้
ส่วนตัวลูกปวดหัว ท้ายทอยและกระบอกตา เพราะความเครียดและความกังวลในเรื่องงานเป็นหลัก ให้ทุกคนหมั่นสั่งสมบุญทุกบุญให้บ่อย ๆ มาก ๆ แล้วบริหารขันธ์หมั่นออกกำลังกาย พักผ่อนให้เต็มที่ เดี๋ยวก็จะหายเอง


#ฝันในฝัน   #โรงเรียนอนุบาลฝันในฝัน   #โรงเรียนฝันในฝัน  #กฏแห่งกรรม #ธรรมะ #แสดงธรรม #นักเรียนอนุบาล  


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

โรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ.2561   พระครูสังฆรักษ์อน...