วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561



โรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา

วันอังคารที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ.2561

พระมหามิญช์ พุทฺธิวฑฺโฒ

แสดงธรรมเรื่อง  บวชสามเณร จ.ไพลิน กัมพูชา

ห้องSPD 4 สภาฯ

*********************

ขอความเจริญรุ่งเรืองในธรรม จงมีแด่ท่านสาธุชนผู้มีบุญทุกท่าน  ขอเจริญพรญาติโยมโรงเรียนฝันในฝันทุกท่านนะ  วันนี้ได้มีโอกาสเล่าปกิณกะธรรม หลังจากที่ได้เดินทางไปประเทศกัมพูชาหลายปี   ได้เข้าไปศึกษาวัฒนธรรม  ความรู้ประวัติศาสตร์ของประเทศกัมพูชาเป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปี   มีโอกาสได้ไปหลายเมือง  หลายจังหวัด  จนกระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ มีการจัดบวชสามเณรที่ประเทศกัมพูชาที่จังหวัดพระตะบอง  มีพระอาจารย์สุขจันทร์ ท่านเข้าไปบริหารงาน เอาโครงการไปจัดบวชสามเณร 1,000 รูป

 

หลวงพี่ได้มีโอกาสนำโครงการนี้ไปจัดบวชที่จังหวัดไพลิน ประเทศกัมพูชา อยู่ติดชายแดน ภาคตะวันออกของประเทศไทย ใกล้กับจังหวัดจันทบุรี  ผ่านทางช่องทางเขาผักกาด ถ้าหากใครได้เคยฟังเรื่องราวในสมัยก่อน ถ้าศึกษาเรื่องรัตนชาติจะคุ้นเคย คำว่าไพลินเป็นรัตนชาติอย่างหนึ่ง  จังหวัดไพลินนี้เป็นต้นกำเนิดของรัตนชาติที่เรียกว่า ไพลิน และได้รับการสถาปนาให้เป็นจังหวัดล่าสุดของประเทศกัมพูชาเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้

 

โดยทั่วไปแล้วจังหวัดไพลินมีพระและสามเณรทั้งหมดในจังหวัดประมาณ 300 กว่ารูป เพิ่งจะมีวัดที่รอดจากสงครามมาได้ประมาณ 33 วัด เป็นจังหวัดเล็ก ๆ มีประชากรอาศัยอยู่ 70,000 ถึง 100,000 คน  เป็นจังหวัดที่รักและศรัทธาพระพุทธศาสนา   แม้ว่าจะมีผู้คนอยู่กระจัดกระจายไปในที่ต่าง ๆ แต่ผู้คนเหล่านั้นต่าง ๆ ก็มีความศรัทธาและเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา

 

โชคดีที่หลวงพี่และพระอาจารย์ชุดศูนย์การศึกษาเขาแก้วเสด็จ จำพรรษาอยู่ที่นั่น 14 ปี เราได้รู้จักกับรักษาการเจ้าคณะจังหวัดไพลิน  ซึ่งแต่เดิมท่านก็ได้มีโอกาสเดินทางมาที่วัดพระธรรมกายในช่วงวันคุ้มครองโลก ตลอด 4 – 5 ปีติดต่อกันมานี้  ท่านมาเยี่ยมวัดพระธรรมกายทุกปี  และได้มีโอกาสไปพักที่เขาแก้วเสด็จ ท่านได้มีโอกาสพาหมู่คณะ 40 – 50 คนบ้าง บางปีเป็น 100 คน ไปพักที่เขาแก้วเสด็จก่อน  แล้วค่อยมาร่วมพิธีงานวันคุ้มครองโลก

 

เพราะฉะนั้นความรู้จักคุ้นเคยในแต่ละปีจึงคุ้นเคยกันดี  จนกระทั่งในปีนี้ท่านได้รับตำแหน่งเป็นรักษาการเจ้าคณะจังหวัดไพลิน สิ่งที่ท่านปรารภและคุยกับหลวงพี่มาตลอดว่า เมื่อไหร่จะมีการจัดบวช อยากให้จัดบวชอีกครั้ง อยากจะให้มีพระเณรเยอะ ๆ ในจังหวัดไพลิน ในเบื้องต้นหลวงพี่   2 ปีแรกก็ค่อย ๆคุย ทำความรู้จักกัน หลวงพี่ได้มีโอกาสเข้าไปประเทศกัมพูชา เรียนรู้วัฒนธรรมและศึกษาประวัติศาสตร์หลาย ๆ อย่าง มีความรู้สึกผูกพันกับประเทศกัมพูชาจนหลาย ๆ คนทักว่าหลวงพี่มิญช์ไม่ค่อยอยู่เขาแก้วเสด็จ  ก็จะไปอยู่ประเทศกัมพูชาเป็นหลัก

 

ไปอยู่ที่นั่นได้มีโอกาสไปเรียนภาษากัมพูชา  หลวงพี่เป็นคนต่างจังหวัดเป็นคนภาคเหนือ เมื่อมาอยู่เขาแก้วเสด็จได้พบปะกับกัลยาณมิตร ผู้นำบุญ กัมพูชามากมาย  มีความรู้สึกว่าสักวันหนึ่งถ้ามีโอกาสจะเข้าไปเยี่ยม  เมื่อ 10 ปี ที่แล้วจึงได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมที่ประเทศกัมพูชา  ข้ามไปข้ามมาระหว่างประเทศไทย  กับประเทศกัมพูชา  จนกระทั่งมาถึงทุกวันนี้ จึงได้นำพาสามเณรพี่เลี้ยง จากศูนย์การศึกษาเขาแก้วเสด็จ  โรงเรียนเตรียมพุทธศาสตร์ไปร่วมกันจัดโครงการบวชสามเณรที่จังหวัดไพลิน ประเทศกัมพูชา ซึ่งก็มีสามเณรมาร่วมบวชทั้งหมด 250 รูป มีการบวชอุบาสิกาแก้วด้วย ซึ่งภาษากัมพูชาจะเรียกศีลวัตตี (อุบาสิกาแก้ว) คือผู้ประพฤติศีล ในศีลในวัตรปฏิบัติของสมณะ คืออุบาสิกาแก้ว  นั่นเอง  มีทั้งเด็กนักเรียน และญาติโยมสนใจ ตั้งแต่รุ่นเยาว์ถึงรุ่นอายุมาก ๆ ที่เข้าวัดมีตั้งอายุ  11 ปี 13 ปี จนกระทั่งถึงอายุมากที่สุด 80 ปี ก็มาร่วมบวชที่นี่

 

หลวงพี่อยากให้ดูภาพ การทำงาน และการจัดอบรม ซึ่งเป็นภาพดี ๆ การบวชครั้งนี้ เป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา ระหว่างมูลนิธิวัดพระธรรมกาย กับ ประเทศกัมพูชา อบรมระหว่างวันที่ 7 ถึง 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2561


 

เป็นอุโบสถ 3 ชั้น มีประวัติพิเศษสร้างโดยชุมชนชาวมอญ อพยพมาจากพม่า ตรงมาจากกาญจนบุรีข้ามตรงไปจนกระทั่งถึงจังหวัดไพลิน ถ้าเราลากเส้นตรงจากตะวันตกไปตะวันออก วัดนี้สร้างโดยคณะศรัทธาชาวมอญ – พม่า สร้างเป็นอาคาร 3 ชั้นข้างบนเป็นปราสาท เป็นเจดีย์บรรจุส่วนกลางจะเป็นพระบรมสารีริกธาตุ ส่วน 4 มุมบรรจุพระอรหันตธาตุตามตำนานว่าไว้ ซึ่งก่อสร้างมามีอายุกว่า 50 ปี เกือบ 60 ปี และเป็นอาคารเดียวที่รอดพ้นจากสงครามที่ผ่านมาของประเทศกัมพูชา



ก็เป็นความร่วมแรงร่วมใจกันของภิกษุ ชาวคณะสามเณรทั้งฝั่งประเทศกัมพูชาและฝั่งไทย ทั้งข้าราชการ ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งกระทรวงธรรมการ หรือกระทรวงพุทธศาสนาของจังหวัดก็เข้ามาร่วมด้วย ที่สำคัญคือ มีพระครูธัมมปทีโป รักษาการเจ้าคณะจังหวัดไพลิน ซึ่งท่านก็รักพวกเรารักหมู่คณะเห็นความเป็นระเบียบเรียบร้อยของหมู่คณะเรา เห็นต้นแบบ เห็นตัวอย่างที่ดีของวัดเราก็รู้สึกว่าอยากจะนำวิธีการที่จัดเป็นระบบ ระเบียบต่าง ๆ ไปแลกเปลี่ยนและก็เรียนรู้ที่ประเทศกัมพูชา จะมีทีมพระอาจารย์กัมพูชาได้มาดูงานที่ศูนย์การศึกษาเขาแก้วเสด็จ มากันหลายครั้งและแต่ละครั้งท่านก็ได้รับประโยชน์กลับไปทุกครั้ง  และก็สร้างแรงบันดาลใจที่จะทำให้เกิดความรู้สึกอยากจะจัดโครงการนี้ด้วยตัวท่านเองก่อน เพราะหลวงพี่ถือว่าการจัดงานทำนองนี้เป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ จะต้องเกิดแรงบันดาลใจ

 

ส่วนผู้ที่ต้องเข้าไปร่วมด้วยความเคารพ และให้เกียรติซึ่งกันและกัน ให้เขามีความรู้สึกว่าการทำงานนั้นต้องประสานกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะมีทีมงานทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชา และที่สำคัญที่สุดก็คือล่ามแปลต้องมาช่วยกัน

 

ภาพวันแรก ๆ เป็นพิธีตัดปอยผมที่กัมพูชา ซึ่งก็มาจากพิธีทำขวัญนาค ในสมัยก่อนก็คือพิธีตัดปอยผม อันนี้ก็ใช้วัฒนธรรมของทั้งสองประเทศ ซึ่งทางกัมพูชาก็จะมีพิธีทำขวัญนาค มีการกล่าวถึงพระคุณของพ่อแม่


 

ในการบวชครั้งนี้เด็ก ๆ ส่วนใหญ่ตั้งใจบวชเพื่อทดแทนพระคุณพ่อแม่ ซึ่งโครงการบวชนี้เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วเคยจัด แล้วก็เพิ่งมีการจัดอีกครั้งคือครั้งนี้ ห่างเหินการจัดบวชแบบจำนวนมาก ๆ มาเป็น 10 ปีแล้ว ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำความปลาบปลื้มปีติให้กับชาวจังหวัดไพลินมาก


กัลยาณมิตรพรสรร กำลังเอก ท่านเจ้าภาพได้เดินทางไปร่วมกับคณะ แล้วก็เดินแห่นาคธรรมทายาทรอบเมืองเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตรครึ่ง เดินตอนช่วง 08.30 น. เสร็จพิธีประมาณเกือบ 10.00 น. เป็นขบวนที่ยาวมาก  เพราะว่าสาธุชน พ่อแม่ อุบาสก อุบาสิกา ญาติพี่น้องที่มาร่วมพิธีกรรมร่วม 1,000 กว่าคน ทั้งขบวนเกือบ 2,000 คน

 

ทางทีมงานของกัมพูชาก็ให้ความร่วมมือ ทีมงานที่ไปจากวัดเราก็ได้ช่วยกันจัดขบวนให้เป็นที่เลื่อมใส น่าศรัทธา เป็นสิ่งที่น่าตื่นของประชาชนชาวพุทธที่นั่นมาก ๆ และเขาไม่เชื่อว่าการจัดงานใช้เวลาเตรียมการอยู่แค่ 2 – 3 วันเท่านั้นเอง ก็สามารถจัดงานได้อย่างเรียบร้อย สะอาด ขาวสะอาด ซึ่งถ้าท่านเห็นภาพเล็ก ๆ นาคแต่ละองค์จะถือเป็นลูกมะพร้าวก็คล้าย ๆ บายศรีของประเทศไทย แต่ที่นี่เป็นลูกมะพร้าวประดับไปด้วยใบไม้ใบตอง ดอกไม้เป็นเครื่องสักการะพระอุปัชฌาย์ ทั้ง 250 ท่านก็ถือหมดเลย ซึ่งเป็นการจัดขบวนการบวชซึ่งใช้วิธีแบบโบราณของประเทศกัมพูชา

 

วัฒนธรรมชาวพุทธ คือชุดขาวเข้าวัด เป็นประเพณีชาวพุทธที่เราจะต้องช่วยร่วมมือร่วมใจกันอนุรักษ์ประเพณีนี้ไว้ การนุ่งขาวห่มขาวเข้าวัดเป็นสิ่งที่สำคัญของชาวพุทธมาก จริง ๆแล้วเป็นวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล

ถ้าหากท่านใดมีความสนใจศึกษา  ศึกษาในพระไตรปิฎก ใครที่ใช้อินเตอร์เน็ตก็ค้นหาใน Google สามารถค้นหาด้วยคำว่านุ่งขาวห่มขาวแล้วค้นไปที่พระไตรปิฎก เราจะพบว่าในพระไตรปิฎกนั้น มีปรากฏว่าการนุ่งขาวห่มขาวเป็นพุทธประเพณี เป็นวัฒนธรรมของชาวพุทธตั้งแต่สมัยพุทธกาล  หลวงพี่คัดเอาคำที่มีอยู่ในพระไตรปิฎกมีหลายพระสูตร

 

วัฒนธรรม ประเพณีการนุ่งขาวห่มขาวเข้าวัดเป็นวัฒนธรรมที่ทุกท่านจะต้องศึกษาเรียนรู้และช่วยกัน บอกกันต่อ ๆไปว่า เมื่อมาเป็นชาวพุทธโดยสมบูรณ์แล้วถึงเวลาจะเข้าวัดปฏิบัติธรรมขอให้นุ่งขาวห่มขาว แต่ละอย่างก็มีความสำคัญทั้งสิ้น เราจะเห็นว่าวันที่อาจจะมีแม่ชีและพุทธศาสนิกชนชาวกัมพูชาก็มาร่วมพิธีนุ่งขาวห่มขาวกันเป็นส่วนใหญ่

เพราะฉะนั้นการนุ่งขาวห่มขาวเป็นสัญลักษณ์และมรดกทางวัฒนธรรมของชาวพุทธ ภาพจิตรกรรมที่ผนังโบสถ์ในยุคสมัยเก่าเราจะเห็นว่ามีหลายภาพที่ปรากฏของสาธุชนที่ใส่ชุดขาว ๆ เข้าวัดปฏิบัติธรรม อย่างน้อย ๆ ก็จะเห็นเสื้อขาว ฉะนั้นชุดขาวจึงเป็นสิ่งที่ทุกท่านจะต้องเรียนรู้ นี่ก็คือการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมซึ่งกันและกัน บางครั้งเราไม่ได้ให้ความรู้ซึ่งกันและกันเราก็ไม่รู้ คนทั่วไปเขาก็ไม่รู้ว่าทำไมจะต้องใส่ชุดขาวเข้าวัดด้วย



การจะเปลี่ยนแปลงให้เขาเข้าใจวัฒนธรรมเก่า ๆ เข้าใจวัฒนธรรมที่ถูกต้องสิ่งที่เราจะต้องทำความเข้าใจกันก่อนจึงต้องศึกษาวัฒนธรรมร่วมกัน การได้มาศึกษาวัฒนธรรมร่วมกันทำให้เรารู้ ให้เข้าใจและเห็นตรงกัน

 

ซึ่งต่อไปในอนาคตชาวพุทธก็จะต้องรวมกันเป็นหนึ่งให้ได้ ให้มีพลังความสามัคคีให้ได้ พลังสามัคคีมันก็เริ่มต้นจากความเข้าใจที่ตรงกัน อย่างน้อยก็ความเข้าใจเรื่องการใส่ชุดตามพุทธประเพณีเป็นวัฒนธรรมที่งดงามซึ่งชาวพุทธจะต้องพูดกันต่อ ๆไป บอกกันต่อ ๆไปว่า จริง ๆแล้วมีปรากฏในพระไตรปิฎกว่า ไม่ว่าจะเป็นคฤหัสถ์ที่ประพฤติพรหมจรรย์ หรือคฤหัสถ์ที่มีครอบครัวแล้วก็ตาม ต่างคนก็ต่างนุ่งขาวห่มขาวเข้าวัดปฏิบัติธรรมกันทั้งสิ้น ตรงนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ   วัดพระธรรมกายของเราก็พยายามที่จะแนะนำสาธุชนใหม่และเก่า และก็ตอกย้ำกันตลอดว่าการใส่ชุดขาวเข้าวัดนั้นเป็นพุทธประเพณีที่งดงาม

 

นี่บรรยากาศการรับผ้าไตรแขกที่มาร่วมงานทุกคนก็เห็นความเป็นระเบียบเรียบร้อย มีความปลื้มปีติมาก ในวันบวชสามเณร มีการบวชอุบาสิกาแก้วด้วย



 

การบวชอุบาสิกาแก้ว (ศีลวัตตี) เป็นเรื่องที่เราเข้าไปให้ความรู้เรื่องเกี่ยวกับระเบียบวินัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความดีสากล ให้กับทุก ๆ คนมันเกิดผลทั้งสิ้น ทุกครั้งที่เรามีภาพดีๆ ออกไปสู่โลกโซเชียลมีเดีย ที่เราสวมชุดขาวนั่งสมาธิสวดมนต์ภาวนาทุกอย่างนั้นมีผลหมด แม้กระทั่งสามเณรทุกรูปเวลาจะถ่ายรูป เวลาจะเดินไปไหนก็ตามก็จะให้เรียงลำดับเป็นระเบียบตั้งแต่องค์ตัวเล็ก ๆ อยู่ข้างหน้าไล่เรื่อยไปจนกระทั่งตัวสูง ๆ เวลามองดูก็ไม่ขัดตา แล้วมีความรู้สึกสบายตา เย็นตา สบายใจ ซึ่งภาพที่เราถ่ายทอดออกไปและช่วยกันประกาศพระศาสนาตรงนี้มีผล

 

หลวงพี่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวทางพระพุทธศาสนาของประเทศกัมพูชาอยู่ตลอด ล่าสุดวันสองวัน ก็ได้เห็นภาพสามเณรที่ประเทศกัมพูชาท่านไปทัศนศึกษา และเห็นภาพที่งดงาม สามเณรที่ประเทศกัมพูชามีบวชและอบรมเหมือนประเทศไทยเรา



สิ่งที่หมู่คณะเราได้เข้าไปให้ความสำคัญ เข้าไปทำรายละเอียดตรงนี้จะเกิดประโยชน์ต่อการร่วมแรงร่วมใจในการอภิวัฒน์ และเชิดชูพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านใกล้เรือนเคียงของเราสำคัญมาก    คราวที่แล้วพระอาจารย์สุขจันทร์ให้เราได้ดูภาพความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสามเณรเมืองพระตะบอง

 

คราวนี้หลวงพี่จะนำความงดงามของสามเณรจังหวัดไพลิน ซึ่งสามเณรสอนง่าย เราก็สื่อสารกันด้วยภาษากัมพูชาเป็นหลัก หลวงพี่ถึงเวลาที่ต้องเทศน์ ก็ต้องพูดภาษากัมพูชา แต่จะเทศน์ได้สั้น ๆ  ส่วนใหญ่จะได้ให้โอกาสทางพระอาจารย์ พระพี่เลี้ยงที่มาจากประเทศไทยของเราไปสอนอบรมสมาธิสามเณร หลวงพี่ก็จะให้คำง่าย ๆ ในการปฏิบัติธรรมให้กับพระที่ไปสอนฝึกอบรม  เด็ก ๆ ก็จะรู้ ยกตัวอย่างเช่น คำว่า นั่งสมาธิ คำก็คล้าย ๆ กับภาษาไทย ภาษากัมพูชาจะบอกว่า กุยสมาธิ (กุย แปลว่า นั่ง) หรือบางทีคำว่านั่งสมาธิในภาษาไทย  ถ้าความรู้สึกของชาวกัมพูชาถ้าใช้คำว่าตั้งสมาธิเขาจะเข้าใจง่าย หมายถึงการกำหนดจิตให้มีสมาธิ  จะสังเกตว่าเหมือนเลย (ตังสมาธิ) ปรับโทนเสียงสำเนียงนิดหน่อย ตังสมาธิคือการทำใจให้เป็นสมาธิ ถ้าภาษาไทยของเราก็คือ ตั้งจิตให้เป็นสมาธิ ดังนั้นคำว่าตั้งในภาษาไทยน่าจะเพี้ยนมาจากภาษากัมพูชา

 

เพราะฉะนั้นการที่เราได้เรียนรู้ทั้งภาษาทั้งวัฒนธรรมเราจะมีความรู้สึกสนุก และมีความเข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้น  เวลาเราเข้าไปถึงประเทศกัมพูชาเราจะรู้สึกเหมือนเราเป็นพี่เป็นน้อง เป็นเพื่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเป็นชาวพุทธที่รักพระพุทธศาสนาและอยากที่จะรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีชาวพุทธไว้  ด้วยความเต็มเปี่ยมของทั้งคู่เป็นจุดเชื่อมที่ทำให้เรารู้สึกถึงกันได้ บางครั้งพูดกันไม่รู้เรื่องมีแค่รอยยิ้มให้กันก็เข้าใจ

 

ครั้งแรกที่หลวงพี่นำนั่งสมาธิเป็นภาษากัมพูชา เราพูดกันด้วยภาษามือใช้คำง่าย ๆ เช่น ถ้าจะให้เขานึกถึงดวงแก้ว คำว่าดวงแก้วก็แก้วเหมือนกัน ส่วนคำว่านึก โชคดีที่มีโอกาสเรียนภาษาเหนือมาตั้งแต่เกิด อยู่จังหวัดลำปางการพูดภาษาเหนือไม่ใช่เรื่องยากเลย ภาษากัมพูชาเวลาที่พูดคำว่า นึก พูดว่า กึด ถ้าใครเป็นชาวเหนือก็รู้ว่าคำว่า กึด ก็คือนึกคิด ยิ่งเรามาจากต่างถิ่นต่างแดนจะพบว่าจริง ๆ แล้วก็พี่น้องกันทั้งนั้น ภาษาอย่างเดียวกันทั้งนั้น

ฉะนั้นคำ แค่ภาษาถ้าเราเรียน เรารู้ เราเข้าใจ เราก็จะเห็นความเป็นพี่เป็นน้องของทุกชนชาติที่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พอเรารู้สึกความเป็นพี่เป็นน้องเราจะมีความรู้สึกรัก เมตตาต่อกัน ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้มีจิตเมตตา

 

คำว่าเมตตา มาจากคำว่า มิตร มิตรแปลว่าเพื่อน เพื่อนร่วมโลกของเรา เวลาเรามองพี่น้องนักสร้างบารมีไม่ว่าจะเกิดในที่ใด ๆ ในโลก ลองมองแบบมิตร มองแบบเพื่อน คือมองด้วยสายตาประกอบไปด้วยความเมตตา พอเรามีความเมตตาอยู่ในใจ เวลาคิดจะคิดแบบเมตตา เวลาจะพูดก็พูดด้วยความมีเมตตาประกอบเข้าไปด้วย เวลาจะทำก็ทำประกอบไปด้วยเมตตา เห็นในโลกโซเชียลเยอะ บางคนไม่มีข้อนี้เลย อะไรไม่ถูกใจก็โพสต์ว่ากันแรง ๆ

 

ถ้าเราเป็นชาวพุทธที่แท้จริงจะพูด แม้กระทั่งแต่ปัจจุบันนี้คนที่อยู่ในโลกโซเชียลชอบโพสต์เรื่องราวไปในเฟสบุ๊ค ในไลน์ ในแอปพลิเคชั่น ทวิตเตอร์ ถ้าเป็นชาวพุทธที่แท้จริงต้องโพสต์ประกอบไปด้วยความมีเมตตา

 

เรารู้ข่าว 13 นักเตะอยู่ในถ้ำ เราก็ต้องประกอบไปด้วยเมตตา ขอให้ลูกหลานออกมา ปลอดภัย ขอให้หลวงปู่ปกป้องคุ้มครอง สิ่งที่เราพูด สิ่งที่เราคิด สิ่งที่เราทำออกไป แม้กระทั่งเราเขียนไปมันเกิดผลหมด  แล้วคนที่มีสัมมาทิฏฐิเขาจะรู้สภาพจิตใจของเราว่า สิ่งที่เราประพฤติปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกหลวงพ่อหลานคุณยาย ลูกศิษย์วัดพระธรรมกายทั่วโลก ตราสัญลักษณ์ของคนมีอยู่

 

บางคนมีภาพโปรไฟล์เป็นรูปวัดพระธรรมกาย เป็นรูปทำบุญทำกุศล เราต้องรักษาภาพของเราด้วยนะ เราอย่าไปโพสต์อย่าไปเล่นในสิ่งที่ไม่เหมาะสม คำรุนแรง เป็นผรุสวาท ควรเป็นคำที่ประกอบด้วยเมตตา ให้กำลังใจ ให้แรงบันดาลใจทั้งหมด ภพชาติต่อไปจะพูดอะไรใคร ๆ ก็ฟัง ใคร ๆ ก็เชื่อถือ เราชาววัดพระธรรมกายต้องทำหน้าที่ชาวพุทธที่ดี จะเป็นต้นแบบให้กับชาวโลก ภาพที่เราส่งแชร์ไปในโลกออนไลน์ ภาพไม่ดีเราจะไม่ส่ง เราจะส่งแต่ภาพดี ๆ เพราะภาพดี ๆ เพียงแค่หนึ่งภาพมันแทนคำพูดเป็นพันคำ เราไม่ต้องไปสาธยาย คนที่มีปัญญาเขาเห็นเพียงภาพเดียวเขารู้เลย

ตอนนี้ประเทศไทยอยู่ในสายตาของชาวโลก คนทั้งโลกระดมกันไปช่วยกันที่เชียงราย ไปถ้ำหลวง  หน่วยซีล หน่วยทหาร ทุกคนเป็นแรงใจ สุดท้ายเราก็ได้รับข่าวดีว่าพบตัวเขาแล้ว และกำลังจะเดินทางออกมาจากถ้ำ สิ่งที่เราควรจะทำคือให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ไม่ต้องไปค้นอดีตมาว่ากล่าวมันบั่นทอนกำลังใจกันเปล่า ๆ  เราเองก็อยากมีกำลังใจไม่สิ้นสุด และก็ไม่อยากให้ใครมาบั่นทอนกำลังใจเรา

 

ลูกศิษย์หลวงพ่อ ลูกศิษย์คุณยาย ลูกศิษย์วัดพระธรรมกายต้องช่วยกัน ต้องทำหน้าที่ตรงนี้ด้วยความปีติใจ  มองสรรพสัตว์บนโลกนี้ให้เป็นมิตร เป็นเพื่อน แล้วส่งภาพดี ๆ ออกไปให้ทุก ๆ คนได้เห็นว่า ภาพดี ๆ เกิดขึ้นแล้วในโลก แล้วจะได้ทำให้พระพุทธศาสนาเกิดแต่สิ่งที่ดี ๆ เป็นต้นบุญต้นแบบให้แก่ชาวโลก ซึ่งตรงนี้สำคัญมาก ๆ เราส่งภาพดี ๆ ที่กัมพูชา คนอินเดียเขาปลื้มใจ มีเว็บเพจหนึ่งเอาภาพไปแปลเป็นภาษาอินเดีย เขียนเป็นภาษาอังกฤษ แล้วเอาภาพการสร้างบุญของเราที่ประเทศกัมพูชาไปให้ ปรากฏว่า ชาวพุทธอินเดีย ศรีลังกา  เนปาล บังคลาเทศ กล่าวคำว่า สาธุ ๆ  

 

ภาษาของชาวพุทธมันใช้ได้ทั้งโลก คำว่าสาธุ คำเดียวมันแทนถ้อยคำทุก ๆ ถ้อยคำทุกคนรู้และเข้าใจเป็นถ้อยคำที่ดี คำว่าสาธุเป็นคำกลาง ๆ เพราะมาจากภาษาบาลี ภาษากัมพูชาเดิมได้รับอิทธิพลจากภาษาสันสกฤตซึ่งมาจากศาสนาพราหมณ์ - ฮินดูต่อมาได้อิทธิพลจากภาษาบาลีที่มาจากพระพุทธศาสนาเถรวาท ในประเทศกัมพูชาคำศัพท์ในประเทศกัมพูชาที่ใช้ ถ้าใครพูดภาษาไทยได้ หรือคนที่เข้าใจภาษากัมพูชา ก็เข้าใจภาษาไทยได้ง่าย ๆ เพราะคำพูดหลาย ๆ คำมาจากภาษาบาลี – สันสกฤต เช่นกัน

 

ถ้าทุกท่านมีโอกาสไปเที่ยวกัมพูชา ที่เที่ยวที่สำคัญ นครวัด, อังกอร์วัด เสียมเรียบ จ.ไพลินติดชายแดน จ.จันทบุรี แวะทานมังคุด ทุเรียน แล้วแวะไปทานลำไยที่ไพลิน ที่ไพลินมีสวนลำไยห่างจากชายแดนไป 15 กิโลเมตรก็ถึงวัดที่เราไปจัดบวชชื่อวัดกองกาง สร้างโดยชาวมอญ

 

ชาวพุทธเมื่อไปรวมตัวกันทำความดีทั้งโลกรวมทั้งชาวมอญจากเมียนมาร์เป็นผู้สร้างวัด มีทั้งคณะสงฆ์จากประเทศกัมพูชา และก็มีชาวไทยจากวัดพระธรรมกายของเราเข้าไปร่วมแรงร่วมใจแล้วก็มียอดวัดกัลยาณมิตรที่อยู่จันทบุรีเข้าไปช่วยเหลือ ช่วยเป็นล่าม เป็นพี่เลี้ยงอุบาสิกา หลาย ๆ ท่านก็ได้ไปช่วยงานพระพุทธศาสนากัน

 

ในระหว่างที่หลวงพี่เข้าไปมีวัฒนธรรมอันหนึ่งซึ่งเราอาจจะไม่ค่อยคุ้นในประเทศไทย คือวัฒนธรรมการกราบ  การกราบเขาจะนั่งยอง ๆ ภาษาเหนือเรียกว่านั่งจองเคาะ ภาษากัมพูชาใช้คำว่าจองเฮิง เป็นการนั่งของพระภิกษุสามเณรเมื่อจะทำการไหว้ การกราบ



ถ้าเราไปในประเทศเมียนมาร์เราก็จะเห็นท่านั่งยอง ๆ แบบนี้ ประเทศลาว ประเทศเมียนมาร์ ประเทศกัมพูชาก็นั่งยอง ๆ แบบนี้ ภาษาไทยเรียกว่านั่งกระโหย่ง แปลว่านั่งบนส้นเท้าแล้วเข่าติดพื้น ก็คือนั่งคุกเข่า แต่บางตำราคำว่านั่งโหย่ง ๆ แปลว่านั่งยอง ๆ แต่ที่เป็นภาษาบาลีแปลว่านั่งคุกเข่า

 

การไปสอนวัฒนธรรมไทยการลุกนั่งกราบไหว้โดยที่เราไม่ศึกษาไปไม่ได้ การกราบของเราน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมาสมัยรัชกาลที่ 4 พระองค์ได้มีพระราชบัญญัติให้เปลี่ยนวิธีการกราบของพระภิกษุสงฆ์ การกราบ ท่านั่งเทพบุตร เทพธิดา อย่างที่ชาวไทยเรากราบจะคล้ายกับการถวายบังคม ทั้งหญิงและชายต้องนั่งคุกเข่าเรียกว่าคุกเข่าสูงทั้งคู่

 

สำหรับการกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์แบบไทยจะนั่งคุกเข่าท่าเทพบุตร และท่าเทพธิดา นั่งบนส้นเท้าเข่าติดพื้น แต่ถ้านั่งยอง ๆ ก็คือนั่งบนส้นเท้าเหมือนกันแต่ว่าเข่าตั้งขึ้น

หลวงพี่ไปสอนที่กัมพูชา สอนอย่างไร  โชคดีที่ประเทศกัมพูชามีการกราบทั้ง 2 แบบ เราจึงต้องสอนทั้ง 2 อย่างเพื่อให้ท่านสามารถเรียนรู้ทั้ง 2 แบบ โชคดี เราจัดงานบวช วัฒนธรรมเราคล้ายกันมาก

วิธีการกราบในสมัยพุทธกาล เราจะเอาหลักฐานอะไรไปให้เขาดู เป็นหลักฐาน   จึงศึกษาจากงานพุทธศิลป์ ที่เกี่ยวเนื่องกับงานพระพุทธศาสนา คือภาพวาดที่อยู่ในโบสถ์ ศิลาจารึก ใบเสมา โบสถ์ ศาลา พระพุทธรูป เจดีย์ ประติมากรรม เรียกว่าพุทธศิลปะ เป็นงานคู่เผยแผ่พระพุทธศาสนา

 

การที่ประเทศใดเจริญด้วยพุทธศิลปะ หมายความว่าประเทศนั้นมีความรุ่งเรืองทางพระพุทธศาสนาด้วย งานพุทธศิลป์สะท้อนสภาพจิตใจ ความใส่ใจ ความละเอียดอ่อนของจิตใจ แม้แต่สภาวธรรมการปฏิบัติธรรม เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่ช่างศิลป์สลักภาพออกมาสร้างผลงานศิลปะที่ออกมา ทั้งภาพจิตกรรมประติมากรรม ล้วนแล้วแต่เรียกว่าพุทธศิลป์ทั้งสิ้น

 

หลวงพี่จึงต้องไปค้นหลักฐานที่เก่าแก่ที่สุด เวลาพระภิกษุทำการเคารพพระพุทธเจ้า การแสดงความเคารพหรือการแสดงการบูชาเป็นพื้นฐานของชาวพุทธ ผู้ที่มีสัมมาทิฏฐิ  ถ้าได้ศึกษามาแล้วทางปริยัติ  คุณสมบัติ 2 ข้อแรกของสัมมาทิฏฐิคือ เชื่อว่าทานมีผล การบูชามีผล  ความเชื่อในเรื่อง การบูชามีผลปรากฏในมงคลสูตร การบูชาบุคคลที่มีควรบูชาเป็นมงคลสูงสุด

 

การที่เราได้มีโอกาสมาบูชาพระมหาธรรมกายเจดีย์ เราตั้งจิตมาแต่ไกลต้องใจมาแต่บ้าน ตั้งใจมาเวียนประทักษิณ มาบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า การบูชาพระพุทธเจ้าโดยมีพระมหาธรรมกายเจดีย์มีพระพุทธเจ้าล้านพระองค์เป็นสื่อ ความเชื่อว่าการบูชาพระรัตนตรัยมีผลเป็นสัมมาทิฏฐิ และถูกหลักวิชชา ตามมงคลสูตร คือการบูชาบุคคลที่ควรบูชาเป็นมงคลสูงสุด

 

ฉะนั้นใครจะมากล่าวหาว่า บูชาทำไม ไม่มีผลหรอก  แสดงว่าไม่ได้ศึกษาธรรมะของพระพุทธเจ้า ไม่ได้ศึกษาพระไตรปิฎก การบูชาบุคคลที่ควรบูชา  เป็นการบูชาอันสูงสุด และเราก็รู้ว่าพระมหาธรรมกายเจดีย์เป็นองค์แทนพระพุทธเจ้า แม้นี้ก็เป็นพุทธศิลปะ ศิลปกรรมชั้นยอดของโลกอีกอันหนึ่ง  ในยุคนี้ที่เกิดในยุคของเรา  เวียนประทักษิณไป  ใจนึกถึงองค์พระไป  ทำให้ใจปลื้ม  นี่แหละสัมมาทิฏฐิของแท้  คือเชื่อของการบูชามีผล

 

เราไปเจอภาพศิลปะในปากีสถานในยุคศิลปะคันธาระ อายุราวพุทธศตวรรษที่ 600 – 800 คือหลังพุทธปรินิพพาน 600 ปี อยู่ในพิพิธภัณฑ์อังกฤษ เรียกว่าภาพจำหลักหินทราย



ในปัจจุบันนี้นักวิชาการยังไม่สามารถค้นพบ ภาพนั่งยอง ๆ  แต่ภาพการนั่งยอง ๆ เป็นการนั่งแบบฤษี



 

ในการที่เราได้เดินทางไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมกับชาติต่าง ๆ เราต้องเข้าใจตัวเราเองอย่างถ่องแท้ให้ลึกซึ้งว่ารากเง้าต้นกำเนิดเดิมของเราซึ่งแม้เป็นชาวพุทธไทยก็ตาม แต่เราก็รับพระพุทธศาสนามาจากประเทศอินเดีย

การที่เราได้มีโอกาสไปศึกษาพุทธประวัติ แม้ว่าจะอยู่ในรูปของพุทธศิลปะงานพุทธศิลป์ก็จำเป็นที่จะต้องศึกษา

เพราะฉะนั้นในยุคต่อไปแม้ของวัดพระธรรมกายเราเองงานเกี่ยวกับทางด้านพุทธศิลป์ซึ่งที่ทุกท่านไห้เห็นออกมาทีละนิดเป็นภาพของเทวดาภาพพุทธประวัติ ทีมงาน 3D เอนิเมชันค่อยๆ ผลิตออกมาด้วยความศรัทธาที่เต็มเปี่ยม กว่าจะค้นมาได้แต่ละภาพ กว่าจะไปค้นพุทธศิลปะที่ใกล้เคียงกับยุคพุทธกาลมาทำภาพเผยแผ่ไม่ใช่เรื่องง่าย ทุกคนต้องเอาใจใส่ ต้องฝึกฝนฝีมือ ต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้เกิดเป็นภาพดี ๆให้เกิดขึ้นเพราะแค่ภาพเดียวตอบคำถามได้เป็นพันคำ

 

เราไม่ต้องพูดเลยว่าในสมัยพุทธกาลพระภิกษุสงฆ์ท่านไหว้ ท่านทำสักการะพระพุทธเจ้าด้วยท่าแบบใด เพราะฉะนั้นท่าที่เก่าแก่ ซึ่งเป็นบุญของพวกเราที่เราได้ฝึกหัดท่านี้มาในสมัยตั้งแต่ที่เราเกิด ถือว่าเราชาวพุทธจะต้องศึกษาประวัติเดิม คือวัฒนธรรมของอินเดียเอาไว้ เพื่อการตอบคำถาม การอธิบายความรู้เมื่อเราต้องอธิบายให้กับพี่ ๆ น้อง ๆ หรือแม้แต่การขยายความเรื่อง ต่าง ๆ เหล่านี้ให้กับชาวต่างประเทศที่มาเยี่ยมชมวัดพระธรรมกาย มากันเป็นหมื่น ๆ คน

ได้ข่าวว่าเมื่อเดือนที่แล้วมีคณะนางงามจากประเทศนิวซีแลนด์ มาศึกษาวิธีการนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมที่วัดพระธรรมกายของเรา เพราะฉะนั้นวิธีการกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์เราสามารถอธิบายได้หรือไม่ว่า จริง ๆแล้วการกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์เก่าแก่ที่สุดที่ปรากฏบนภาพพุทธศิลป์นั่งคุกเข่ากราบ เป็นบุญของพวกเราที่ได้มาพบเจอพระพุทธศาสนาได้มาศึกษา เมื่อเวลาเราไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้เราก็ไม่ต้องเอาความรู้ไปข่มเขา  แต่เราต้องค่อย ๆ ศึกษาเรียนรู้ร่วมกัน ค่อย ๆ เรียนรู้ร่วมกัน  เราไปเพื่อไปเปิดใจไม่ได้ไปปิดใจ ไม่ได้ไปปิดทาง เราต้องเอาความเป็นมิตร ความเป็นเพื่อน  แต่ไม่ได้ยัดเยียด  ไปแลกเปลี่ยน

 

คุณสมบัติของผู้ที่จะไปทำหน้าที่นำแสงสว่างขยายต่อออกไปทั้งโลก ต้องมีคุณสมบัติการยอมคน ที่คุณยายอาจารย์ ฯ ท่านให้คำสอนไว้ว่า คุณยายสร้างวัดได้เพราะยายยอมคน เราจึงต้องรู้จักยอม สิ่งสำคัญที่สุดเราต้องอาศัยปัญญาในการให้ความรู้กับเขาอย่างค่อยเป็น ค่อยไป  วันนี้สมควรแก่เวลา   ( เปิด MV ทบทวนบุญโครงการบรรพชาสามเณร  จ.ไพลิน ประเทศกัมพูชา)

 

                           

 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

โรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ.2561   พระครูสังฆรักษ์อน...