วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2561


โรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา

วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ.2561 

พระปลัดนพดล สิริวํโส

แสดงธรรมเรื่อง ปกิณกะธรรม


ที่ห้องSPD 4 สภาธรรมกายสากล

                           *****************

ขอความเจริญรุ่งเรืองในธรรมจงเกิดแก่ทุกท่านทุกประการเทอญ เราได้มาพบกันได้มีโอกาสฟังธรรม การฟังธรรมนั้นเกิดขึ้นได้ยากมาก จะต้องมีพุทธศาสนา มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลกจึงค่อยมีการฟังธรรม การฟังธรรมก็สืบต่อกันมา พระพุทธเจ้าก็เป็นบรมครู พระธรรมก็เป็นบทเรียน พระสงฆ์ก็เป็นนักเรียนที่เรียนคำสอนของพระพุทธเจ้า แล้วก็เอามาปฏิบัติ ปฏิบัติแล้วก็เผยแผ่

คำสอนของพระพุทธเจ้า... สอนให้ละชั่วด้วยกาย วาจา ใจ   ...สอนให้ทำดีด้วยกาย วาจา ใจ ...สอนให้ทำใจให้ผ่องใส นี้ก็เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า  เราท่านทั้งหลายจะได้น้อมนำไปปฏิบัติ  หลักๆหรือหัวใจก็คือการละชั่วด้วยกาย วาจา ใจ ...การทำดีด้วยกาย วาจา ใจ... การทำใจให้ผ่องใส

ในวันหนึ่งเราจะเพียรละบาปอกุศลที่ยังไม่เกิดขึ้น ไม่ให้เกิดขึ้น..เพียรละบาปอกุศลที่เกิดขึ้นแล้วให้หมดสิ้นไป... เพียรเจริญกุศลที่ยังไม่เกิดขึ้นให้เกิดขึ้น ...เพียรเจริญกุศลที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญงอกงามยิ่ง ๆ ขึ้นไป  เรื่องความเพียรหรือความดีงามที่เราทุกท่านจะต้องทำ

การฟังธรรม เมื่อฟังแล้วผู้ฟังก็เกิดความเลื่อมใส ศรัทธา เชื่อมั่น แล้วนำธรรมะนั้นมาพิจารณา .. เข้าใจ  แล้วเกิด หิริ ความละอาย โอตัปปะ ความสะดุ้งหวาดกลัวต่อบาป เกิดความสำรวมระวัง ทางกาย วาจา ใจ หรือการสำรวมระวัง ถ้าเป็นของพระก็ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่ใช่ถือนิมิต  ไม่ใช่ถืออนุพยัญชนะรายละเอียดปลีกย่อยเพราะอกุศลวิตกทั้งหลาย จะไปทางตา ทางหู ทางจมูก เข้าสู่ใจ ความกำหนัดยินดี ความต้องการใน รูปสวย เสียงเพราะ กลิ่นหอม รสอร่อย เพราะฉะนั้นต้องสำรวม

พอสำรวมระวังแล้วก็เกิดความบริสุทธิ์กาย สำรวมระวังไม่ทำชั่วทางกาย ความบริสุทธิ์ทางวาจา ความบริสุทธิ์ทางใจ เมื่อเกิดความบริสุทธิ์ทางกาย วาจา ใจ ดีแล้ว นิวรณ์ทั้ง 5 คือกามฉันทะ ... พยาบาท.... ถีนมิทธะ... อุทธัจจะกุกกุจจะ   ความฟุ้งซ่านรำคาญใจ และวิจิกิจฉาความสงสัยลังเลใจ

ฉะนั้นเมื่อนิวรณ์หมดไปใจก็หยุดนิ่งเข้าถึงจักษุญาณ ปัญญา วิชชา แสงสว่าง หรือผู้รู้ภายใน เรียกว่ากายธรรม หรือพุทธรัตนะหรือพระธรรมกาย เห็นแจ้งแทงตลอด เกิดความเบื่อหน่ายคลายความกำหนัด กิเลสก็หมดเห็นแจ้งแทงตลอด สำเร็จมรรคผลนิพพาน

วันนี้มาฟังธรรมเรื่อง สร้างบารมีให้มากเข้าไว้ ท่ามกลางภัยในวัฏสงสาร ....วัฏสงสาร คือวงเวียนที่น่าสงสาร ที่วนเวียนตาย – เกิด (เกิด แก่ เจ็บ ตาย) ในระหว่างนี้ก็มีกำลังของกิเลส ความโลภ โกรธ หลง ให้กระทำกรรมชั่ว ทางกาย คือฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ พระพฤติผิดในกาม กระทำชั่วทางวาจาคือกล่าวคำเท็จ ส่อเสียด  พูดคำหยาบ เพ้อเจ้อ ความชั่วทางใจคือโลภอยากได้ของคนอื่น พยาบาท จองล้าง จองผลาญ จองเวร มิจฉาทิฏฐิ

ทำชั่วทางกาย วาจา ใจ มีผลหมด ทำมากมีผลมาก ทำน้อยมีผลน้อย  ถ้าสร้างบาปไปอบาย มนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลายไม่รู้ว่ากำลังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏสงสาร และไม่คิดด้วยว่าเราจะต้องแก่ เจ็บ ตาย เพราะความโลภ ความโกรธ ความหลง   นี่คือตัวผลักดันให้กระทำกรรม พอทำกรรมนี้แล้ว  ผลกรรมก็ส่งผล   หรือกรรมเก่าที่ทำไว้แล้วหลายภพ หลายชาติก็จะมาส่งผล

คนที่ตายตั้งแต่อยู่ในครรภ์ คลอดออกมาแล้วตาย แม่คลอดลูก   แม่ตายลูกรอด ทั้งแม่และลูกตาย  คนโรคมาก อายุสั้น ตัวเตี้ย หลังค่อม คนจน คนโง่ คนปัญญาอ่อน นี้มันเป็นผลของกรรมชั่ว อย่างนี้เรียกว่ามืดมา

เกิดในตระกูลต่ำ ผิวดำ ฟันหัก ปากเหม็น ไม่สวย ตาเหล่ ปากเบ้ จมูกบี้ ขาเป๋ มือแบ ผมหยิก หน้าก้อ คอสั้น มันเป็นผลของกรรมที่เป็นผลของจากของเก่าที่เราทำมา

คนรวยที่เรียนไม่จบปริญญา คนจบปริญญาแต่ไม่รวย จบปริญญาเป็นลูกน้องคนจบ ป.4 นี่เป็นผลของกรรมในวัฏสงสาร มันมีโทษ  

โทษภัยในวัฏสงสารน่ากลัวมาก ถ้าไม่มีบุญเลย  ดื่มสุราตายแล้วไปมหานรกขุมที่ 5

เราต้องระลึกนึกถึงคุณของมหาปูชนียาจารย์  คุณของพระบรมศาสดา มหาปูชนียาจารย์ที่สอนเราเรื่องเหล่านี้ให้เราได้รู้ ได้เห็น ได้เข้าใจเกิดหิริ โอตัปปะ ได้เข้าใจแล้วเกิดศรัทธาเลื่อมใส นี่คือวัฏสงสาร

ในระหว่างที่เราจะต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย ในระหว่างที่มีกิเลสร้าย ในระหว่างที่มีผลของกรรมที่ตามเรามา ทุกครั้งที่เราจะทำชั่วใดๆ จะถูกบันทึกเอาไว้ด้วยใจเราเอง ฝังอยู่ในใจเราเอง  มีผลอยู่ในใจเรา พอหมดกายหยาบจากชาตินี้ แก่ เจ็บ ตายแล้ว เราก็จะต้องไปใช้หนี้

เราจะต้องสร้างบารมีอย่างเต็มที่ เต็มกำลัง ทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนาทุกวัน ในเมื่อวัฏสงสารโหดร้ายมาก เราต้องสร้างบารมีอย่างเต็มที่เหมือนคนที่ขนของออกจากเรือนที่ถูกไฟกำลังไหม้ โอกาสที่จะทำบาปมันก็ไม่มี  ในเมื่อเกิดมาแล้วยังไงก็ต้องแก่ ขอแก่บารมีก็แล้วกัน ในเมื่อเกิดมาแล้วมันต้องเจ็บ เจ็บกาย ขอมีมหาปีติ เกิดปลาบปลื้ม เกิดความสุข แทนความเจ็บ ในเมื่อเราจะต้องตาย ก็ขอให้เข้าถึงพระธรรมกายผู้ไม่ตายก็แล้วกัน

เราอยู่ในวัฏสงสารมันโหดร้ายมาก มีภัยตลอด  เมื่อจะต้องแก่ เจ็บ ตาย เราก็ขอแก่บารมี ขอปีติแทนความเจ็บ ขอเข้าถึงพระธรรมกายแทนความตาย เราเกิดมาเพื่อแก่บารมี เกิดมาเพื่อปีติใจ เกิดมาเพื่อเข้าถึงพระธรรมกาย ต้องมีปีติ ทำปีติให้เกิดขึ้น ทำบารมีให้แก่ ทำทานบารมี พระโพธิสัตว์สุเมธดาบสท่านสอนตัวเองให้ทานเหมือนหม้อน้ำที่คว่ำ สุเมธดาบสชาติหนึ่งไปเกิดเป็นกิตติดาบสอยู่ในบรรณศาลาเอาใบหมากเม่ามาต้มน้ำแล้วฉัน ฉันเฉพาะใบหมากเม่า ดื่มเฉพาะน้ำต้มใบหมากเม่าอยู่อย่างนั้นแต่ท่านได้อภิญญาสมาบัติเหาะได้ มีฤทธิ์

ด้วยเดชแห่งบุญนั้น ความบริสุทธิ์ของท่าน คือไม่ทำบาปเลย มีความบริสุทธิ์มาก ทำให้บัณฑุกำพลศิลาอาสน์ ของท้าวสักกะแสดงอาการร้อน จึงแปลงกายเป็นพราหมณ์ลงมากิตติดาบสเกิดปีติที่ได้ทำทานแก่พราหมณ์ ให้ทานหมด เหมือนหม้อที่คว่ำ ให้แล้วก็ไม่แสวงหาใหม่ ให้ทานถึง 3 วัน ให้แล้วก็ไม่ได้ฉัน อยู่ได้ด้วยปีติที่เกิดจากการให้ทานเหมือนพระพรหม พระโพธิสัตว์อยู่ในวัฏสงสารรู้ว่าทุกข์ แต่อยู่ในวัฏสงสารเพื่อสร้างบารมี ไม่ได้อยู่เพื่อสร้างบาป คนทั่วไปที่ไม่รู้ สรรพสัตว์เขาเกิดมาสร้างบาปด้วยความไม่รู้นั้นแล้วไปสู่อบาย

แต่พระโพธิสัตว์ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า อยู่ในวัฏสงสารที่โหดร้ายอย่างนี้เพื่อสร้างบารมีให้แก่ แทนที่จะเจ็บกลับมีปีติสุข อยู่เพื่อก่อปีติสุข เพราะอยู่ในวัฏสงสารจะต้องแก่ เจ็บ ตายและภัยในอบาย จึงต้องรีบสร้างบารมี

ท้าวสักกะจึงถามว่าท่านให้ทานทั้ง 3 ครั้งท่านปรารถนาอะไร ท่านตอบว่า การให้ทานครั้งนี้ไม่ได้หวังเป็นท้าวสักกะ ไม่ได้หวังเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ไม่ได้หวังความเป็นอัครสาวก ไม่ได้หวังเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า แต่ให้ทานครั้งนี้เพราะหวังเป็นพระพุทธเจ้า แม้ว่าเราจะอยู่อย่างนี้ แม้เราจะอดอาหารจะให้ทานทั้งหมดอย่างนี้เราก็อยู่ได้ตลอด 1 เดือนด้วยปีติ เรียกว่ามีปีติเป็นอาหาร การอยู่ในวัฏสงสารต้องอยู่ด้วยปีติใจ สุขใจ ท่ามกลางความแก่ ความเจ็บ ความตาย จะแก่ก็แก่บารมี บารมีแปลว่า ความดีอย่างยิ่งยวด คือนิสัยในการให้ แม้ไม่มีคนขอก็ให้ ขอก็ให้จนหมดเหมือนหม้อที่คว่ำ ต่อไปให้เลือดให้เนื้อ ต่อไปให้ชีวิต อยู่ในวัฏสงสารเพื่อบำเพ็ญบารมี ไม่ใช่เพื่อทำเวรกรรม แล้วต้องไปใช้หนี้เวรกรรมเพื่อไปรับโทษยาวนาน ตกนรกในมหานรก หกหมื่นล้านล้านปีมนุษย์

เราจะต้องเกิด หิริ โอตัปปะ และเกิดปีติจากการสร้างความดีให้ได้ ฉะนั้นเรามาอยู่ในวงบุญพิเศษ วัดเราหมู่คณะเราสร้างบุญเต็มที่เราไม่ควรตกบุญเลยแม้แต่บุญเดียว

ในเมื่อเราจะต้องตาย เรามีโอกาสเข้าถึงอมตะคือพระธรรมกาย มนุษย์เราแก่เจ็บตาย แต่พระธรรมกายไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย เราทุกคนมีโอกาสเข้าถึง กายยังเป็นมนุษย์อยู่ แต่ว่าจะต้องมีศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 ศีล 227 อินทรีย์สังวรศีล สำรวมตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ อาชีวปาริสุทธิศีลแสวงหาด้วยความบริสุทธิ์ ไม่เป็นหมอดูฉัน ไม่รับจ้างฉัน ปฏิบัติธรรม แล้วก็เดินบิณฑบาตฉัน แต่กรณีเขาถวายไม่ต้องบิณฑบาตก็ได้เพราะเขาศรัทธาในข้อวัตรปฏิบัติ เป็นพระต้องปฏิบัติให้ศีลบริสุทธิ์ ให้ได้เกิดสมาธิ ปัญญา วิมุต วิมุตติญาณทัสสนะ ให้ได้องค์ห้านี้สำหรับพระ หรือละนิวรณ์คือ กามฉันทะ พยาบาท ถีนมิทธะ อุทธัจจะกุกกุจจะ วิจิกิจฉา วันพระต้องละนิวรณ์ที่หลวงพ่อท่านเคยพูด

ในขณะที่โลกวุ่นวายเราจะต้องมีเป้าหมายที่ต้องเข้าถึงธรรม เป็นจุดหมายปลายทาง ทางเอกสายเดียวคือหยุดนิ่ง เดินทางอริยมรรคประกอบด้วยองค์ 8 แล้วเข้าถึงกายธรรมคือพุทธรัตนะหรือพระธรรมกายนั่นเอง เป็นที่พึ่งซึ่งเราจะต้องเอาเป็นที่พึ่ง หลังจากตายแล้วก็จะเป็นที่พึ่ง มีชีวิตอยู่เพื่อเป็นที่พึ่ง ก่อนตายก็เป็นที่พึ่ง หลังตายก็เป็นที่พึ่ง เป็นเรื่องของเราที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ พบพระพุทธศาสนา แล้วมีโอกาสที่จะฝึกฝนใจให้หยุดนิ่งเข้าถึงพระธรรมกายภายในซึ่งเป็นกายที่ไม่ตาย แต่กายหยาบ ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ นี้แก่ไปทุกวันแล้วก็เจ็บ ตาย แต่กายธรรมเป็นอมตะธาตุ ไม่ตาย ทรงไว้ซึ่งความไม่ตาย ที่สงบระงับประณีต เป็นที่สิ้นตัณหา เป็นที่คลายกำหนัด เป็นที่ดับ 

แม้ว่าเราจะต้องแก่ ก็ขอให้แก่บารมี แม้ว่าเราจะต้องเจ็บก็ขอให้ปีติใจในการสร้างบารมี แม้ว่าเราจะต้องตายก็ให้เข้าถึงที่พึ่งภายในคือพระธรรมกาย อันเป็นอมตะธาตุที่ไม่ตาย อย่าให้เสียทีที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ แล้วพบกับครูบาอาจารย์คือ หลวงปู่ ผู้สอนคนให้เข้าถึงพระธรรมกาย หลวงปู่ปฏิญาณตนว่าเข้าถึงพระธรรมกาย แล้วก็สอนคนให้เข้าถึงพระธรรมกาย ไม่ได้ตายเถอะ ไม่ได้ตายเถอะ ไม่ตายสักที ถึงเวลาแล้วมันก็ได้เอง

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราก็เท่านั้น แม้เลือดเนื้อจะแห้งเหือดหายไปไม่ว่าเหลือแต่กระดูกหนังช่างมัน ไม่ได้ไม่ลุกจากที่นี่จริงอย่างนี้ ท่านเป็นอาจารย์ทำจริงเราลูกศิษย์ก็ทำจริงเหมือนกัน ไม่ได้ยอมตาย คือตัวท่านเองยอมตายเพื่อเข้าถึงพระธรรมกาย แล้วท่านก็สอนผู้อื่นจะเข้าถึงพระธรรมกายได้ก็ต้องยอมตาย ทำจริงก็เป็นทุกคน จริงแค่ไหนล่ะ แค่ชีวิตซิ ยังไงเราก็ต้องตายอยู่แล้ว  เราก็ต้องปฏิบัติธรรมแบบยอมตาย ก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เราก็จะต้องฝึก

หลวงปู่ พระมงคลเทพมุนี หลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้คนพบวิชชาธรรมกายพระผู้ปราบมารท่านก็สอนให้เข้าถึง พวกเราก็อย่าลืมนั่งสมาธิทำใจหยุดนิ่งเจริญสมาธิภาวนา ถ้ามันตึงก็คลายเส้น ยืดเส้นให้เบาสบาย แล้วอยู่ในสถานที่เย็นสบายอากาศปลอดโปร่ง ให้เราพอใจเท่าที่เราพอทำได้  ไม่คาดหวัง มักน้อย ทำไปเรื่อยๆ ขออย่าให้มีความอยาก เราก็ระลึกนึกถึงพระคุณของหลวงปู่ (พระมงคลเทพมุนี) ผู้สอนให้เราหยุดนิ่งและเข้าถึงธรรม

เรามีหลวงปู่เป็นต้นแบบ  ชี้นำในการปฏิบัติธรรม แนะนำให้เราเข้าถึงธรรม เราปีติใจและดีใจ ที่ได้ความเป็นมนุษย์ แล้วมีครูบาอาจารย์ที่เป็นผู้ค้นพบและแนะนำสั่งสอน เราก็ยินดีที่จะทำตามคำสั่งสอน แล้วเผยแผ่ให้กว้างออกไป อาศัยความเป็นมนุษย์เพื่อเข้าถึงธรรม เข้าถึงพระธรรมกายซึ่งเป็นเป้าหมายของเรา แม้นว่าเราจะอยู่ในวัฏสงสารที่มีโอกาสผิดพลาดแล้วไปสู่อบายได้ เราก็จะต้องติดตามครูบาอาจารย์ต่อไป ขออยู่ในร่มเงาพระพุทธศาสนา ร่มเงาของวิชชาธรรมกายเพื่อที่เราจะไม่ไปสู่อบาย สรรพสัตว์ทั้งหลายอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมทั้งหมดไม่มีใครพ้นไปได้

ฉะนั้นในทุกๆบุญที่ทางวัดเรามี เป็นบุญของพระพุทธศาสนาเราก็จะต้องทำทุกๆบุญ เหมือนอย่างพระฉันแล้ว พระย่อมได้อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ พระย่อมได้เลือดและเนื้อจากข้าวและน้ำของโยม และพระก็มีกำลังเรี่ยวแรง สติปัญญา พระไปศึกษาคำสอน เป็นนักเรียน เรียนพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เรียนได้มากเพียงใด รู้ซาบซึ้งได้มากเพียงไรเราผู้ถวายภัตตาหารแค่เพียงมื้อไม่กี่สตางค์ย่อมได้รับบุญนั้นด้วย

พระท่านมาปฏิบัติท่านทำใจให้หยุดนิ่งถึงดวงสว่างได้ หรือทำลายนิวรณ์ หรือทำความเพียรก็ยังดี แค่ท่านทำความเพียรเราผู้ถวายย่อมได้รับบุญมาก  ถ้าพระท่านเข้าถึงธรรมแล้วไปสอนคนอื่นให้เข้าถึงธรรมได้มากเพียงไร ผู้ถวายข้าวและน้ำวันนั้นย่อมได้บุญมากมายเพียงนั้น

ถ้าธรรมะนั้นขยายกว้างออกไปมีผู้เข้าถึงธรรม ผู้เลื่อมใสธรรม มีศรัทธากระทำความดี จิตใจที่มืดมนต์เป็นจิตใจที่สะอาด ที่สว่าง จิตใจที่สกปรกสะอาด ข้าวและน้ำของท่านวันนั้นได้บุญมากมายมหาศาล และนี่เป็นหน้าที่ของโยมที่จะแก่บารมีจะต้องทำให้ถูกเนื้อนาบุญด้วย

และถ้าบุคคลทั้งหลายไปชักชวนคนทำความดีอีก บุญก็เกิดขึ้นจากพระที่แสดงธรรม แล้วก็เกิดขึ้นกับโยมผู้ถวายภัตตาหารด้วย อย่าละเลยการถวายภัตตาหารพระ เพราะสำคัญมาก อย่าละเลยการใส่บาตร ให้การสนับสนุนพระในพระพุทธศาสนา ให้การสนับสนุนผ้าไตรจีวร ผ้าห่ม รองเท้า ค่ารถ ค่าเรือในการเดินทาง ค่าเครื่องบินในการเดินทางไปต่างประเทศ จำเป็นจะต้องมี

ฉะนั้นขอให้เราท่านทั้งหลายระลึกเสมอว่าเรากำลังอยู่ในวัฏฏสงสารการเวียนว่ายตายเกิด เรากำลังอยู่ในความแก่ ความเจ็บ ความตาย แต่เราเป็นศิษย์มีครูเราจะต้องอยู่ด้วยความแก่บารมี  ไม่อยู่ด้วยความเจ็บปวดแต่อยู่ด้วยความปีติใจ ไม่ได้อยู่เพื่อเข้าถึงความตาย แต่อยู่เพื่อเข้าถึงความไม่ตาย วันนี้ก็ขอให้ได้บุญกับพระอาจารย์ในทุกๆวัน


#ฝันในฝัน   #โรงเรียนอนุบาลฝันในฝัน   #โรงเรียนฝันในฝัน  #กฏแห่งกรรม #ธรรมะ #แสดงธรรม #นักเรียนอนุบาล  

 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

โรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ.2561   พระครูสังฆรักษ์อน...