วันพฤหัสบดีที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2561



โรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
วันอังคาร ที่ 26  เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2561
พระมหากิตติ กิตฺติญาโณ 
แสดงธรรมเรื่องภารกิจลูกเพื่อพ่อ
ห้อง SPD 4 สภาธรรมกายสากล

 *********************

                    เจริญพรนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาทั่วโลกทุกท่านนะ วันนี้วันโกน พรุ่งนี้วันพระ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 เดือนหน้าเป็นอาสาฬหบูชา เหลือเวลาอีกแค่เดือนเดียว จะเข้าพรรษาแล้ว พรรษานี้มีความสำคัญแตกต่างจากทุกพรรษาก็ว่าได้  

                  ถ้าสังเกตเหตุการณ์บ้านเมืองยุคปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นถึงสภาวะวิกฤตในหลายเรื่อง ความวิกฤตแปรเปลี่ยนเป็นภัยพระพุทธศาสนา ไม่ใช่พึ่งมี มีมายาวนานต่อเนื่อง เพราะมีมายาวนานต่อเนื่อง ความพยายามในการทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมสูญ ในทุกที่ที่พระศาสนาอยู่ ซึ่งเป็นภารกิจหมู่มาร พญามารกลัวการอุบัติขึ้นของผู้รู้ เพราะอยากให้โลกนี้อยู่บนความไม่รู้ เอาอวิชชาที่เป็นต้นตออยู่ในใจทุกคน อวิชชานี้อุปมาเหมือนความมืด มีอยู่ในใจใครแล้ว คิดผิด พูดผิด ทำผิด หนักกว่านั้นทำแล้วไม่รู้ว่าตัวเองทำผิด

                       การอุบัติขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำให้ความไม่รู้หายไป อุปมาเหมือนดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า ยังความสว่างไสวให้บังเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นพญามารก็กลัว จึงกัน ไม่ให้มีคนไปรู้ไปเห็นตาม เพราะฉะนั้นคำสอนพระพุทธเจ้าผ่านกาลเวลานี้ พิสูจน์แล้ว 2,500 กว่าปี เกิดที่อินเดีย พญามารก็ทำให้สูญที่อินเดีย พระพุทธศาสนาเดินทางกระจายไปทั่ว ในยุคพระเจ้าอโศกมหาราช จากจุดเริ่มต้นที่อินเดียผ่านสมณทูต 9 สาย กระจายให้ไปเจริญถึงจุดหนึ่ง เป็นหน้าที่พญามารทำให้เสื่อมสลายสูญหายไป ภารกิจพระก็ขยายไป

                        พระโมคคัลลีบุตรติสสะ พระมหาเถระผู้ใหญ่ในยุคโน้น 200 กว่าปี หลังปรินิพพาน เป็นประธานสังคยานาครั้งที่ 3 เมื่อมีสังคยานน่าจะสะท้อนให้เห็นว่า ศาสนามีวิกฤต ไม่อาจปล่อยเหตุการณ์ดำเนินไปได้  เหมือนหายใจไม่ออก ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ

                         คราหนึ่งพระโมคคัลลีบุตรติสสะเถระ ใคร่ครวญดูด้วยญาณทัสสนะว่า พระพุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองที่ไหน ถ้าท่านปล่อยปละละเลย ป่านนี้พุทธศาสนาคงเดินทางต่อไม่ได้ ท่านเป็นพุทธบุตรมีจิตสำนึก ทำอย่างไรพระพุทธศาสนาไม่ถึงทางตัน แม้ทางตันอยู่ ณ เบื้องหน้า ใคร่ครวญด้วยญาณทัสสนะ ตรวจดูด้วยธรรมกายที่ท่านเข้าถึง เป็นหน้าที่ที่จะทำให้พระพุทธศาสนาเดินทางมาจากวันนั้นถึงวันนี้ได้ พระพุทธศาสนาจะดำรงอยู่ในปัจจันตชนบท ไม่ใช่มัชฌิมชนบท

                       สมัยพุทธกาลแบ่งประเทศเป็น 2 คือ 1 ศูนย์กลางเรียกมัชฌิมประเทศ (เหมือนกรุงเทพฯ) เมืองหลวง บริเวณรอบนอกเรียกปัจจันตชนบท แม้พุทธศาสนาเกิดเจริญในมัชฌิมชนบท ในฐานะท่านเป็นผู้นำฝ่ายสงฆ์  ส่วนฝ่ายฆราวาส คือพระเจ้าอโศกผนึกกำลัง ส่งสมณทูต 9 สายไปเผยแผ่ จุดศูนย์กลางไปยุโรปตะวันออก ไกลมาก แต่พระมหาเถระผู้หลักผู้ใหญ่ แต่ละสาย ไม่เอาความไกลเป็นอุปสรรค  เอาหัวใจพระพุทธองค์เป็นจุดเริ่มต้น  แล้วต่อที่เรา ไปทำหน้าที่
พระพุทธศาสนาจึงเดินทางไป ไปถึงยุโรปตะวันออก เอเชียใต้ กลาง ตะวันออก ส่วนหนึ่งเดินทางมาบ้านเรา

                     เดินทางมาบ้านเราไม่ใช่ว่าง่าย ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม ต่างในทุกสิ่ง ไม่มีอะไรเหมือนกันเลย ที่เหมือนกันมีความเห็นถูก เห็นว่าดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก และตกทางทิศตะวันตก สัจธรรมความจริง เหมือนการขึ้นดวงอาทิตย์ ขึ้นทางทิศตะวันออก และตกทางทิศตะวันตก  คนมีธุลีในดวงตาน้อยก็เข้าใจถึงว่า พระพุทธศาสนามีภัยมีทุกยุคสมัย แม้สมัยพุทธกาลก็มีภัย

                    ช่วงพระพุทธเจ้าทรงมีพระชนม์อยู่ เราไม่กลัวภัยเพราะมีผู้นำ  เหมือนมีเกราะป้องกัน ชีวิตเราปลอดภัย เรื่องในพระไตรปิฎกส่วนใหญ่จะกล่าวว่า หลังพุทธปรินิพพานจะมีเหตุการณ์ต่าง ๆ  เพราะขาดผู้นำ   (เทป...โอวาทหลวงพ่อธัมมชโย การต่อสู้อย่างถูกหลักวิชชา...) 

                     เขาทำก็เรื่องของเขา เราทำเรื่องของเรา ฟังเรื่องราวจะพบว่าทางรอดที่เป็นทางออก ทำให้พระพุทธศาสนาเจริญ กลับมาที่ตัวเราทั้งสิ้น ไม่ใช่เรื่องคนอื่น เป็นเรื่องตัวเอง ยิ่งเรามีความบริสุทธิ์มาก บุญนี้จะทำให้พระพุทธศาสนาของเรา เจริญรุ่งเรือง เข้มแข็ง สว่างไสว พระสูตรหนึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัส ตรัสเรื่องนี้เพื่ออยากให้พวกเราทุกคนได้มาระลึก  ผู้ไม่ทำศาสนาเสื่อม พระองค์ทรงตรัสว่า 1. ภิกษุทั้งหลาย มูลเหตุ 4 ประการเหล่านี้ ย่อมทำให้พระสัจธรรมตั้งอยู่ได้ ไม่เลอะเลือน จนเสื่อมสูญไป

                    1.ภิกษุทั้งหลาย พวกภิกษุในธรรมวินัยนี้ เล่าเรียนพระสูตร อันถือกันมาถูก ด้วยบทพยัญชนะที่ใช้กันถูก ความหมายแห่งบทพยัญชนะที่ใช้กันก็ถูก ย่อมมีนัยอันถูกต้องเช่นนี้ นี่เป็นมูลกรณีที่ 1 ทำให้พระสัจธรรมตั้งอยู่ได้ คือพระบวชแล้วต้องเรียน เรียนพระสูตร พระวินัย เพื่อจะได้ทำความเข้าใจให้มันถูก เพื่อขัดเกลาตัวเรา กิเลสอาสวะที่มีอยู่น้อยลง

                      2 . ภิกษุทั้งหลายอีกอย่างหนึ่ง พวกภิกษุเป็นคนว่าง่าย ประกอบด้วยเหตุที่ทำให้เป็นคนว่าง่าย อดทน ยอมรับคำสั่งสอนโดยความเคารพ หนักแน่น ภิกษุทั้งหลายนี้เป็นมูลเหตุที่ 2 ที่ทำให้พระสัจธรรมตั้งอยู่อยู่ได้

                       ยุคเราเห็นว่าพระสัจธรรมเริ่มสั่นคลอน เพราะภิกษุเป็นผู้ไม่เรียน หรือเรียนก็เรียนไม่รู้... รู้ก็รู้ในระดับไม่เข้าใจ ..เข้าใจก็นำมาปฏิบัติไม่ได้ เป็นขั้นเป็นตอนมันก็สั้น  ฐานมันไม่ดี นึกถึงหลวงพ่อกับความพยายามยกสังฆมณฑล เรื่องพระบาลี ผ่านมาถึงวันนี้ตื่นตัว ยุคที่พระบาลีพระไม่ค่อยเรียน มันยาก ถ้ามีกำลังใจสู้ได้ หลวงพ่อเชียร์ ชม กระทั่งเกิดกระแสการเรียน โดยเฉพาะวัดเรา ตื่นตัว ปีนี้เราสอบได้ที่ 2

                       พุทธศาสนาแต่ละยุค แต่ละสมัย ที่ล่มสลายก็ภิกษุว่ายาก ครั้งหนึ่งสมัยพุทธกาล พระองค์ทรงพระชนม์อยู่ แต่ภิกษุประกอบด้วยทิฏฐิ  มานะ  เป็นคนว่ายาก 2 กลุ่ม 1. พวกธรรมกถึก 2.พวกทรงวินัย เหตุจากเรื่องเล็กน้อย คว่ำขัน ไม่คว่ำขัน ภิกษุ 2 กลุ่มบวชในยุคพุทธองค์ พระอุปัชฌาย์ก็เป็นศิษย์ตถาคต ทุกรูปบวชเป็นศิษย์ตถาคต แต่ว่ายาก สุดท้าย 2 กลุ่มทะเลาะกัน พระพุทธองค์มาห้าม  ...ไม่ฟัง  พระพุทธองค์เบื่อหน่าย ไปปลีกวิเวก ไปอยู่ป่า

                       ผ่านกาลเวลาไปดูประเทศศรีลังกา จะได้รับพุทธศาสนาจากพระธรรมทูต 9 สาย สายหนึ่งไปศรีลังกา ศรีลังกาศาสนาพุทธเจริญในยุคพระมินถเถระ กษัตริย์มีศรัทธายกสวนของตนถวายเป็นสังฆาราม ชื่อมหาวิหาร เอาที่ดินของตนที่ดีที่สุด  ถวายเป็นสังฆาราม เป็นพุทธบูชา เพราะรู้ว่าการถวายแผ่นดินไว้เป็นสมบัติพระศาสนา เป็นทางมาแห่งบุญใหญ่ ชาวพุทธตระหนักเรื่องนี้ให้ดี
   
                        การจะเปลี่ยนสมบัติพระศาสนา เป็นหน่วยงานที่ไม่ใช่วัด ...เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง...เป็น บาปหนัก เปลี่ยนสมบัติวัดทั้งหมด เป็นสมบัติที่ไม่ใช่สมบัติในพระพุทธศาสนา ไปเป็นขององค์กร คนถวายที่ดินรู้   เขาไม่ยอม ชาวพุทธพึงตระหนัก ภัยกำลังมาในแบบที่เราอาจไม่รู้ตัว ปัญหาโจมตีพระพุทธศาสนา หลายคนเริ่มรู้แล้ว พวกเราชาวพุทธต้องตื่นตัว    

                        ผ่านมาช่วงหนึ่งพุทธศาสนาเปลี่ยนยุค กษัตริย์องค์หนึ่งสู้รบกับพวกทมิฬ แพ้แต่ไม่ตาย หนีมาพึ่งใบบุญพระ พระให้การดูแลกษัตริย์ กระทั่งรวบรวมไพร่พล กอบกู้บ้านเมืองขึ้นใหม่ ภายหลังศรัทธาพระรูปดังกล่าว กระทั่งถวายที่สร้างวัดเป็นสังฆาราม ชื่ออภัยคีรีวิหาร พญามารเก่งทำให้ภิกษุ 2 วัด ไม่ลงรอย มหาวิหารในฐานะเป็นวัดดั้งเดิม ไม่พอใจ วัดอภัยคีรีวิหาร ซึ่งเป็นวัดเกิดใหม่ ต้องต่อสู้กัน 

                     ในที่สุดพุทธศาสนาในศรีลังกายุคนี้เสื่อม  เป็นเครื่องยืนยันว่า ในยุคพระพุทธศาสนาเดินทางไปถึง ก็ถึงการล่มสลายด้วยความเป็นผู้ว่ายากของภิกษุ หากหมดไปแล้วจะทำให้มันกลับมาใหม่มันยากนะ ต้องส่งความช่วยไปที่โน้นที่นี่ สยามวงศ์บ้าง พม่า ที่โน้น ที่นี่บ้าง เพื่อไปฟื้นฟู ย้อนไปแล้วเรายอมกัน เป็นคนไม่ว่ายาก หรือแม้แต่ในยุคเราที่มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้ง   

                       ถ้าเราเป็นตถาคต เราหวังความเจริญพระพุทธศาสนาหรือความเสื่อม พุทธองค์บัญญัติสิกขาบท เป็นไปเพื่อให้ศาสนาอยู่ได้นาน ไม่ใช่เพื่ออยู่สั้น ๆ เพราะบัญญัติให้อยู่ได้นาน ๆ จึงมีบัญญัติอื่น ๆ ตามมา เช่นบัญญัติในมหาประเทศ 4 ให้เป็นหลักวินิจฉัยพระวินัยในอนาคต เพราะสังคมเปลี่ยน วิถีชีวิตคน การดำเนินชีวิตคนเปลี่ยน ทุกอย่างเปลี่ยนหมด

                      เมื่อเปลี่ยนหมดก็วิเคราะห์ดูว่า บัญญัติอย่างนี้ เอาสมบัติวัด เป็นสมบัติของรัฐ แล้วศาสนาเจริญไหม ถ้าเจริญบัญญัติ ไม่เจริญอย่าบัญญัติ บัญญัติอะไรสักข้อดูอย่างนี้ เหมือนเป็นพ่อแล้วดูลูก หวังความเจริญหรือเสื่อม หวังความเจริญต้องประคับประคอง บรรพชนเราประคับประคองพุทธศาสนามาถึงยุคเรา ไม่ใช่ว่าไม่มีปัญหา อุปสรรค มี ออกมาตำหนิพระเรื่องนั้นเรื่องนี้ ไม่ถูก หลักปฏิบัติอุบาสก-อุบาสิกา ต้องคิดกับท่านด้วยจิตเมตตา พูดด้วยเมตตา ทำด้วยเมตตา 

                      3.ภิกษุทั้งหลาย พวกภิกษุเหล่าใด เป็นพหูสูต คล่องแคล่วในหลักพุทธวจนะ ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา เอาใจใส่ บอกสอนเนื้อความแห่งสูตรทั้งหลายแก่คนอื่น ๆ พหูสูตเป็นผู้เรียนมาก ฟังมาก ไม่ใช่ผ่าน ฟังแล้วเอามาท่องให้คล่อง ให้ขึ้นใจ ไม่ให้ผิดเพี้ยน ในพระไตรปิฎกมีอะไรต้องเรียน ต้องเข้าใจ หลักต้องรู้ 

                       พุทธองค์แตกต่างจากพระปัจเจกตรงนี้ บอกสอน พระปัจเจกพุทธเจ้าไม่บอก ไม่สอน ไม่มีวิชาครู เราบุญบารมีไม่เท่า แต่เป็นศิษย์ตถาคตแม้บารมีไม่ถึง ต้องมีอุปนิสัยเป็นศิษย์ตถาคตต้องบอกสอน ก่อนจะสอนศึกษาทรงจำให้ถูก จะได้บอกไม่ผิด เพราะจะเป็นภัยใหญ่   

                     นักเรียนอนุบาลฝันในฝันเป็นแบบอย่างที่ดี ขยันฟังธรรม น่าชื่นชม เนื้อหาพระไตรปิฎกถูกสอนผ่านภิกษุผู้ทรงจำ ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา ถ้าไม่บอกไม่สอน มรณภาพ ก็จบ พุทธศาสนาถึงทางตัน เป็นหน้าที่ภิกษุต้องเรียน สอนเรื่องการบำเพ็ญประโยชน์ 

                      เมื่อท่านเหล่านั้นล่วงลับไป สูตรทั้งหลายก็ไม่ขาด เป็นมูลราก ที่มีอาศัยสืบกันไป ภิกษุทั้งหลายนี้เป็นมูลที่ 3 หลวงพ่อถึงต้องสอนลูกพระให้ออกมาทำหน้าที่เทศน์สอน ไปค้นให้ดี ลองทำให้เกิดเป็นปฏิเวธ เราโชคดีเพราะมีข้อที่ 4 ข้อ 1 2 3 ได้ชื่อว่าเป็นผู้ทำพระสัจธรรมยืนยาว 
 
                       4. ภิกษุทั้งหลาย พวกภิกษุผู้เถระ ไม่ทำการสะสมบริขาร ไม่ประพฤติย่อหย่อนในไตรสิกขา ไม่มีจิตตกต่ำด้วยอำนาจแห่งนิวรณ์ มุ่งหน้าไปในกิจแห่งวิเวก ย่อมปรารภความเพียร เพื่อถึงสิ่งที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุสิ่งที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งสิ่งที่ยังไม่ทำให้แจ้ง
  
                      เห็นได้ชัดหลวงพ่อของเรา ครูไม่ใหญ่ ตลอดชีวิตที่ท่านบวช ตลอดชีวิตที่ยังไม่ได้บวช ท่านไม่สะสมบริขาร สอนเราให้รับแล้วจัดเข้าส่วนกลาง เป็นสังฆทาน เราไปบางวัดน่าเห็นใจท่าน โยมมีศรัทธาในระดับที่ใช้ไม่ทัน ไม่รู้จะบริหารจัดการยังไง ดูแลรักษาอย่างดี เราโชคดี หลวงพ่อมองการณ์ไกล ให้สละบริขารเข้าเป็นส่วนกลาง ขาดเหลือไปขอเบิกจากส่วนกลาง ข้อสำคัญนะ ภิกษุผู้เป็นเถระไม่สะสมบริขาร ไม่ประพฤติย่อหย่อน เถระแปลว่าหนัก ผู้เป็นหลักมีธรรมะเป็นหลัก เป็นผู้หนักในธรรม

                      พระพุทธศาสนาเดินทางมาแบบนี้ เรามีพระเถระผู้เป็นหลักหนักในธรรม แม้มีภัย พายุมาปะทะเหมือนภูเขาสูงหินทึบ ไม่สั่นไหวด้วยแรงลม ปะทะมาก็นิ่ง ๆ เฉย ๆ ยิ่งกว่านนั้นอำนาจแห่งนิวรณ์ธรรมไปเกาะท่านไม่ได้ บางคนเข้าใจว่าท่านถูกความโลภ  เข้าครอบงำ เราคิดเอง เพราะไม่ได้ฝึก หลายท่านไปโจมพระมหาเถระผู้ใหญ่ ด้วยความไม่รู้ ไม่กลัวกรรมจากวาจา ตายแล้วลำบาก

                       มุ่งหน้าในกิจแห่งวิเวก หาความสงบของใจ เพราะจะเป็นผู้หนัก มีหลักอยู่ในใจ ใจพบความสงบ  เมื่อนั้นใจมีหลักปักแน่น โดยเฉพาะแน่นไปอยู่ศูนย์กลางกาย อะไรทำให้สั่นไหวไม่ได้เลย ย่อมปรารภความเพียร ถึงความสงบย่อมมีความปีติสุข อยู่กับการหยุดนิ่งใจ มาจากประสบการณ์ภายใน ปรารภความเพียรเพื่อถึงสิ่งที่ยังไม่ถึง กายในกายยังไม่ถึง...ไปทำให้ถึง.. เพื่อทำให้แจ้งสิ่งที่ยังไม่แจ้ง หลวงพ่อของเรา เป็นตัวอย่างที่ดีมาก จาก 1 รูป ตอนนี้เป็นหลายพัน มีอุปสรรคนิดหน่อยเลยไม่ถึงหมื่น

                       เป็นจุดเริ่มต้นว่า พวกภิกษุที่บวชในภายหลังมีเหตุมีผล สำคัญคือความเป็นต้นแบบ   ได้เห็นภิกษุเหล่านั้น ทำแบบฉบับเช่นนั้นไว้ ถือเอาเป็นตัวอย่าง ถามหลายรูป ทำไมบวช บอกเห็นหลวงพ่อแล้วศรัทธา  ความเป็นต้นแบบมีค่ากว่าทรัพย์นับอนันต์ ทรัพย์ภายนอกใช้ไม่นานเดี๋ยวก็หมด หรือตายก่อน จบกัน 

                       วันนี้แม้ไม่เห็นหลักปฏิบัติหลวงพ่อทิ้งไว้ ผ่านกาลเวลา 50 ปี เหมือนตัวแทนหลวงพ่อที่อยู่ในใจ ไม่ใช่ว่าหลวงพ่อไม่อยู่   กลับบ้านดีกว่า  ...เพราะฉะนั้นให้อยู่เหมือนเดิมเพราะสิ่งที่หลวงพ่อสอนมีค่ามากกว่าอย่างอื่น สอนด้วย ทำด้วย

                       ภิกษุรุ่นหลังจึงเป็นพระที่ไม่ทำการสะสมบริขาร ไม่ประพฤติย่อหย่อนในไตรสิกขา มีศีล สมาธิ ปัญญาเป็นต้น โดยเฉพาะพรรษานี้ ดาวส่งสารมาอยากให้ภิกษุ อุบาสก อุบาสิกา เข้าถึงธรรมะภายใน เข้าถึงที่พึ่ง และให้ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรม เป็นพรรษาแห่งการสมหวัง พวกเราสมหวัง จะเห็นพระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง เพราะแหล่งแห่งความสมหวัง จะทำให้ความสมหวังที่สมบูรณ์ เกิดเป็นความเจริญรุ่งเรืองพระพุทธศาสนา

                         ตอนนี้พระภิกษุหมุนเวียนกันไปปฏิบัติธรรม มาบวชเพื่อแสวงหาความสงบ นี่คือไปหากิจแห่งวิเวก ปรารภความเพียรถึงสิ่งที่ยังไม่ถึง บรรลุสิ่งที่ยังไม่บรรลุ ทำให้แจ้งสิ่งที่ยังไม่ได้ทำให้แจ้ง สำคัญมาก

                       ภิกษุรุ่นหลังไม่มีจิตตกต่ำด้วยอำนาจแห่งนิวรณ์ มุ่งหน้าไปในกิจแห่งวิเวก ย่อมปรารภความเพียรเพื่อถึงสิ่งที่ยังไม่ถึง บรรลุสิ่งที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งสิ่งที่ยังไม่ได้ทำให้แจ้ง ภิกษุทั้งหลายนี้เป็นมูลข้อที่ 4 ทำให้พระสัจธรรมตั้งอยู่ได้

                          ความเป็นต้นแบบที่เราได้เห็น จะเป็นแรงบันดาลใจให้คนถัดจากเรา สิ่งที่หลวงพ่อพร่ำสอน ตั้งแต่วันที่เรารู้จักท่านถึงวันนี้ ต้องกลับไปคิดพิจารณาว่า อะไรคือสิ่งที่เรายังไม่ได้ทำ รีบไปทำ เรื่องหนึ่งหลวงพ่อสอนแล้ว หลวงพี่เชื่อมั่นว่า ยามนี้เป็นโอกาสดี ที่จะได้ช่วยกันทำให้ปรากฏ คือภารกิจ ลูกเพื่อพ่อนี่แหละ ปีนี้หลวงพี่จะได้บุญใหญ่นะ ไปดูทบทวนภารกิจที่เราทำมานานแล้ว มีคนเห็นหลวงพี่ทำแล้วทึ่ง แค่เห็นนะ ถ้าทำเองทึ่งกว่านี้อีก   

                          ภาพเดิม ๆ ที่เราทำ แม้ในสถานการณ์พุทธศาสนายุคนี้ หลวงพี่แปลกใจ คนมาสวดมนต์เพิ่มขึ้น เมื่อวานต้องนั่งแนวกลาง แนวอื่นเติมไปแล้ว ทำไมคนไม่ลดลง เพราะมาสวดมนต์ส่งท้าย มหารัตนวิหารคด 29 พรรษาที่จะถึงไม่ได้สวดมนต์ที่นี้แล้ว เพราะพิเศษ ภารกิจลูกเพื่อพ่อที่หลวงพี่จะทำในพรรษานี้ คนในรูปเกือบ 100 % เอาภารกิจพ่อมาเป็นภารกิจเรา 

                         จันทร์ อังคาร ภาพเมื่อวาน เห็นแล้วดีใจศาสนามีภัย ชาวพุทธต้องช่วยกัน วันพุธยืนหยัดเหมือนเดิม เข้าพรรษาสบาย นี่อบต.จัดเหมือนเดิม จะมีภัยอย่างไร อะไร อย่างไร หน้าที่เรายังทำเหมือนเดิม ตั้งแต่หลวงพ่อให้โอวาทบ้านกัลยาณมิตร เป็นบ้านแสงสว่างของโลก เป็นบ้านที่จะแก้ปัญหาทุกสิ่งทุกอย่าง ถึงวันนี้ยืนยัน เป็นอย่างนี้แหละ แค่เราตั้งใจทำ ภาพดีจะเกิดขึ้นทุกวัน ช่วงนี้ไปใช้ที่ราชการบางที่ยาก สถานการณ์บางอย่างไม่ปกติ นี่ใช้บริษัทเพชรธานี เจ้าภาพก็มีเมตตา ใช้กี่วันเอาเลย เราใช้เต็มที่ ก็ได้บุญ เจ้าของก็ได้บุญ วันศุกร์เหมือนกัน

                            พิเศษปีนี้เราอยากบอกทุกคนว่า เราอย่ารักพระพุทธศาสนาแค่ในใจ ถึงเวลาต้อง  ร่วมแรงร่วมใจกัน พิเศษที่ 1 . หลวงพ่อออกพรรษาจะ 50 พรรษา คน ๆ หนึ่งต้องมีอะไรพิเศษ มีชีวิต 50 ปี ก็ไม่ธรรมดา จะกล่าวไปใยกับชีวิตสมณะ 50 พรรษา ท่านมีความสำคัญ ที่เกิดแรงบันดาลใจสำหรับหลวงพี่ เป็นที่มาโครงการ พรรษานี้ตั้งใจจะมาใช้ห้องแก้วสารพัดนึก ชวนคน 1 พันคน ประวัติศาสตร์ ไม่เคยคิดเลยพระรูปหนึ่ง ชื่อไม่มีใครรู้จัก จะทำภารกิจลูกเพื่อพ่อ

                     วันนั้นหลวงพี่ประชุมสำนัก ได้ยินคำหนึ่งจาก ครูไม่เล็ก ท่านพูดว่าในยามนี้ต้องชวนคนมาสวดมนต์เยอะ ๆ ได้ยิน ต้องชวนคนมาสวดมนต์เยอะ คำเดียวสั้น ๆ แต่ก่อให้เกิดประกายความหวังยิ่งใหญ่ อยู่ดี ๆ ก็คิดถึงหลวงพ่อปีนี้ 50 ปีนี้เราจะทำสิ่งที่แตกต่าง ถวายเป็นกตัญญูบูชาท่าน เป็นที่มาสวดมนต์ มั่นใจว่า  Core 29 ใช้มา 3 ปี พันคนอยู่ไม่ได้ 500 ก็เต็มแล้ว เป็นจุดเริ่มต้นที่มาใช้ห้องแก้วสารพัดนึก เปลี่ยนบุญสถานแห่งใหม่ในการสวดมนต์ เนื่องในวาระ หลวงพ่อ 50 พรรษา 

                        หลวงพี่ปลื้มใจเพราะ คนเห็นในนั้นเกือบทุกคน อยากไปชวนคนมาเป็น 1 ในพันคนประวัติศาสตร์ สถาปนาโครงการสวดมนต์ โครงการสวดมนต์เข้าพรรษา กตัญญูบูชาพระพ่อ 50 พรรษา เชื่อมั่นว่าลำพังคนเดียว ทำภารกิจนี้ไม่สำเร็จ 1 พันเกินกำลังเราจะไปถึง เมื่อใดกำลังทุกคนร่วมกัน เชื่อมั่นว่าไปถึง รู้สึกลึก ๆ ว่าทุกคนไปช่วยกันตาม บางคนมาสวดตั้งนาน วันนี้พาสามีมา

                       ที่เห็นคนเพราะทุกคนเริ่มจากชวนคนที่เรารัก ชวนคนที่เรารู้จัก บางคนมีปัญหากระทบกระทั่งแล้วแยกกัน ถึงวันสำคัญสิ่งที่เป็นปัญหาในใจ เอาออก เรื่องส่วนตัวต้อง วางอุเบกขา ไปชวน คนไม่มากลับมา ทั้งหมดมารวมกันวันจันทร์แรกของพรรษา วันที่ 30 กรกฎาคม ตลอดพรรษาจัด จันทร์ อังคาร ที่ห้องแก้วฯ ให้เป็น 1 พันประวัติศาสตร์ชีวิตเรา

                       1.) หลวงพ่อ 50 พรรษา  2 . )หลวงพี่พรรษานี้ก็เข้า 20 พรรษา  3 . )ที่สำคัญเราจัดสวดมนต์ปีนี้ ปีที่ 10 ไม่หยุด จะมีวันหยุดก็ไม่หยุด เป็นแรงบันดาลใจ สวดมนต์เข้าพรรษา กตัญญูบูชาพระพ่อ ชวนพวกเราไปร่วมกัน เป็นพันประวัติศาสตร์   20 พรรษา แปรเปลี่ยนเป็นความทุ่มเท ไปลงพื้นที่ทุกวัน ลงจากนี้ ต่อนี้ ๆ ได้พบความอัศจรรย์ว่า แม้ลงพื้นที่เยอะและบ่อย แต่มีหลายพื้นที่ยังไม่ได้ลง ก็ไปลง แล้วขอความร่วมมือจากที่นั่นที่นี่ น้ำใจที่ให้ความช่วยเหลือในยามนี้ คือมิตรภาพที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่เพื่อตัวเรา เป็นความเข้มแข็งพระพุทธศาสนา ด้วยประโยคที่หลวงพ่อพูด ต้องไปชวนคนมาสวดมนต์ให้เยอะ ๆ 

                       คำว่าเยอะเท่าไหร่พอ 1 พัน น่าจะเป็นจุดที่เราใฝ่ฝัน สู้ฝ่าฟันกระทั่งพยายามดันให้มันไปถึง ความคิดจัดสวดมนต์พันคนมีเหมือนกัน มีในอนาคตกาล ไม่ได้กำหนดเวลา กำลังใจไม่เข้มแข็ง จัด 400-500 ที่ Core 29  ก็เดินปลื้มตัวลอยแล้ว ไม่มีใครทำแบบนี้ได้ ถึงจังหวะชีวิตสั้น ๆ ก่อเกิดเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ ทำให้เกิดความร่วมแรงร่วมใจทุกคนที่มาสวดมนต์ 
 
                         ความดีใจไม่ได้เกิดจาก อยากทำโครงการสวดมนต์พันคน เราคิดว่าเกิดจากทุกคนมีความคิด รับผิดชอบร่วมกัน เมื่อใดพุทธบริษัท 4 รับผิดชอบต่อพระพุทธศาสนาร่วมกัน ต้องเจริญรุ่งเรือง กระทั่งบุคคลปรารถนาร้ายต่อพระพุทธศาสนา เปลี่ยนใจ เหมือนพระเทวทัตกำลังถูกธรณีสูบ ก่อนถูกสูบเปลี่ยนใจจะมาขอขมา อยากให้เป็นบุญใหญ่ แล้วเปลี่ยนคนที่คิดร้าย พระศาสนาให้กลับมาเป็นแนวร่วม จะได้เห็นพระพุทธศาสนา ก้าวสู่ยุคใหม่

                        ภารกิจตามคนมาสวดมนต์ หลวงพี่เชื่อว่าเราเคยเห็นภาพสามเณรตัวเล็ก ๆ กับการเดินไปประกาศพระศาสนา อยากให้ดูภาพนี่ก่อนเลิก เพื่อให้รู้ว่าสามเณรก็ทำได้ หลวงพี่เชื่อมั่นว่าต้องทำให้ได้ เพราะสัญญาณดี ๆ เกิดจากความร่วมแรงร่วมใจ  (  สกู๊ป...ภารกิจสามเณร ผู้นำแสงสว่าง ม.โกจิโกร อ.ท่าสองยาง จ.ตาก...)

                       สามเณรตัวเล็กยังสู้ ถ้าไม่สู้ชัยชนะไม่อยู่กับเรา มีภาพปลื้ม ๆ กับตัวเลข 1 พัน ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ อย่างภาพตักบาตรพระพันรูป ตอนตักใหม่ ๆ ปลื้มมาก เพราะไม่เคยเห็น ก้าวจากพันเป็นหลายพัน เป็นหมื่น หลายหมื่น กระทั่งสูงสุดแสน ที่ไหน จำได้ไหม วัดพระธรรมกายยุคเราการตักบาตรยาก

                       ภารกิจประเทศไทยเราทำได้ยาก การบวช ประเทศกัมพูชา เห็นพระท่านมาทำหน้าที่นะ ท่านเล่าปลื้มใจนะ ในระดับเล่า 7 วัน 7 คืน ไม่หมด เป็นประวัติศาสตร์กัมพูชา มีคนมาบวชเณรเป็นพันรูป เดินแถวยาวเลย ยิ่งเดินยิ่งปลื้ม คนเห็นปลื้ม ความรักในพระพุทธศาสนาเกิด  ปีหน้าสงสัยจัดหมื่น ไม่เคยเกิดในประเทศ ไปบิณฑบาตสามเณรแถวยาว ปลื้ม เนปาลจัดบรรพชาสามเณร 1,112 รูป ครั้งแรก คนบวชภาคภูมิใจในความเป็นเชื้อสายศากยะ มาบวชเป็นพัน ปลื้ม คนบวชปลื้ม คนเห็นก็ปลื้ม

                       ภารกิจทั้งหมดที่เล่าเพราะประโยคเดียวสั้น ๆ ที่ได้ยินแล้ว เราไม่ปล่อยผ่าน บุญใหญ่จะเกิดแก่เรา หลวงพี่ทุ่มสุดความรู้ความสามารถที่มี นี่เหตุผลไม่ค่อยเรียน ไม่มีเวลาไปเรียน  ลงพื้นที่ทั้งวัน เชื่อมั่นว่า 1 ชีวิตเรา เราไม่รู้หรอกว่าปีหน้าจะมีแก่เราหรือเปล่า ปีนี้เราจะทำสิ่งนี้เพื่อถวายเป็นกตัญญูบูชา 50 พรรษา พระพ่อ ฝากพวกเราทุกท่าน

                         ท้ายที่สุดแห่งการตั้งใจทำหน้าที่กัลยาณมิตร เพื่อฟื้นฟูพระพุทธศาสนา ให้เจริญรุ่งเรืองเหมือนยุคพุทธกาล ยุคโบราณกาล ด้วยการทุ่มชีวิต ทำหน้าที่กัลยาณมิตร เอาชีวิตเป็นเดิมพัน ตลอดระยะเวลายาวนานที่ผ่านมา ขอบุญนี้จงเป็นบุญศักดิ์สิทธิ์ อัศจรรย์ พลันบังเกิดมีแก่นักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาทั่วโลกทุกท่าน ให้พวกเราทุกท่านจงกลับไปรวย เป็นอัศจรรย์ทันตาเห็น เป็นอัศจรรย์เทอญ    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

โรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ.2561   พระครูสังฆรักษ์อน...