โรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ.2561
พระสกุล ปสาทสนีโย
แสดงธรรมเรื่อง อยากบวชก็แวะมา ตอนที่ 4
ห้องSPD 4 สภาฯ
**********************
วันนี้เป็นวันพระใหญ่ แรม 14 ค่ำ เดือน 7 ในวันอาสาฬหบูชาถึง เราจะต้องมาสวดมนต์บทธรรมจักรกัน ก็ต้องทำให้ทะลุเป้าเข้าถึงธรรม
วันนี้ อยากบวชก็แวะมาเป็นตอนที่ 4 แล้ว
มารายงานคราวที่แล้วได้มาชักชวนแจ้งข่าวการบวชโครงการวันวิสาขปุรณมี วันที่ 13
พฤษภาคม ถึงวันที่ 3 มิถุนายน 2561 จบโครงการไปแล้วเรา มีพระ 30
รูปที่เราจัดบวชคราวที่แล้ว และมีพระต่างประเทศจากสปป.ลาว มาอีก 4 รูปมาอบรมด้วย
เพราะท่านจะไปเป็นพี่เลี้ยงที่ สปป.ลาว จะมาจัดบวชจึงมาฝึกตัวที่เขาแก้วเสด็จ
จบโครงการไปยังเหลืออยู่ 20 รูป
วันอาสาฬหบูชาที่จะถึง มีโครงการบวชพระเข้าพรรษาทั้งที่วัดพระธรรมกาย
ที่เขาแก้วเสด็จ ที่เขาแก้วมีการจะมีการบวชวันที่ 15 กรกฎาคม 2561
แล้วก็อยู่ไปจนถึงวันออกพรรษา จนถึงวันบูชาข้าวพระ เรามีเวลาอีกชวนบวช 1 เดือนเศษๆ
ถ้าเราเคยเป็นผู้ชวนบวชเราจะว่าปลื้มแค่ไหน เพราะว่าเวลาที่ท่านยังอยู่ในเพศสมณะ
เราเห็นแล้วก็ปลื้มใจ
เหมือนตัวหลวงพี่เองคนชวนบวชเขาก็ยังปลื้มใจว่ายังอยู่ในเพศสมณะ
แล้วยิ่งไปเห็นตอนเดินธรรมยาตราพอเดินผ่านเราเสียงจะดังเป็นพิเศษตอนเห็นพระที่เราชวนบวช
ขณะนี้ประสบปัญหามีพระน้อยไม่เพียงพอ มีวัดร้างมาก
จะแก้ไขวัดร้างเราก็ต้องชวนคนมาบวชยิ่งเยอะยิ่งดีและเป็นสิ่งที่เราจะต้องทำ
เรื่องเล่าในสมัยพุทธกาล เรื่องที่สุดแห่งพรหมจรรย์
ที่สุดของบุพเพสันนิวาส สองท่านนี้เป็นสามีภรรยากัน ภรรยาพนมมือได้กล่าวกับสามีที่เป็นนักบวชแล้ว
ความสนิทสนมฉันมิตรความเป็นสามีภรรยากันซึ่งทำให้ตลอดกาลนานประมาณแสนกัปจะแตกกันในวันนี้
เวียนประทักษิณอดีตสามี 3 รอบแล้วกราบเบญจางคประดิษฐ์ ทั้ง 4 ทิศ
ก่อนถึงทางสองแพร่ง นักบวชชายแยกไปทางขวา นักบวชหญิงแยกไปทางซ้าย
เมื่อแยกทางกันได้เกิดแผ่นดินไหวเหมือนจะไม่อาจรองรับคุณความดีของท่านทั้งสองได้
ก่อนที่สองท่านจะเป็นนักบวช
ฝ่ายชายเป็นบุตรของพราหมณ์
ชื่อว่าปิปผลิมาณพ ไม่มีความคิดจะครองเรือน บิดามารดาอยากให้แต่งงาน แต่ตัวท่านอยากประพฤติพรหมจรรย์
ท่านออกอุบายโดยเอาทองคำมาปั้นเป็นหญิงสาวที่มีความสวยงาม และบอกบิดามารดา
ถ้าจะให้แต่งงานจะต้องหาหญิงที่มีความงามเหมือนกับรูปหล่อทองคำ ทางมารดาจึงได้ส่งพราหมณ์ไปตามหากระทั่งได้พบหญิงงามชื่อภัททกาปิลานีเป็นลูกเศรษฐี และได้สู่ขอเพื่อมาแต่งงานกับลูกชาย
ปิปผลิมาณพ
ได้ส่งจดหมายให้คนรับใช้ไปส่งให้กับ ภัททกาปิลานี ว่าเราต้องการออกบวชอยากประพฤติพรหมจรรย์ ขอให้นางหาคู่ครองที่ดีกว่าไปเถิด ส่วนภัททกาปิลานีได้เขียนจดหมายให้คนรับใช้ไปส่งปิปผลิมาณพ
แต่คนรับใช้ทั้งสองฝ่ายได้มาพบกันระหว่างทาง
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่ามนุษย์ในโลกนี้มีด้วยกัน
3 ประเภท
1.จะมี หรือไม่มีพระพุทธเจ้าบุคคลเหล่านี้ก็เอาตัวรอด
2.จะมี
หรือไม่มีพระพุทธเจ้าบุคคลเหล่านี้ก็เอาตัวไม่รอด เช่น พระเทวทัต
3.ถ้าไม่พบพระพุทธเจ้าบุคคลนั้นเอาตัวไม่รอด
ถ้าพบพระพุทธเจ้าเอาตัวรอด เช่น
องคุลิมาล
ในยุคของเราถ้าไม่พบครูบาอาจารย์เราอาจจะไม่รอด
ตัวพระอาจารย์ไม่เคยรู้เรื่องบุญ ไม่เคยเข้าวัด และไม่เคยคิดจะบวช
แต่พอเจอครูบาอาจารย์ และท่านได้ชี้ให้เห็นมรรคผลนิพพาน
จึงได้เปลี่ยนจากวันนั้นจนมาเป็นวันนี้ คิดจะบวชแค่ 1 เดือน แต่ปัจจุบัน 10 พรรษาแล้ว
และวันนี้ได้มาเป็นผู้ช่วยคุณครูไม่ใหญ่ ดีใจและปลื้มที่สุดเลย
ได้เจอครูบาอาจารย์จึงเอาตัวรอดมาได้
ได้รู้จักวัดตอนอายุ 37 ปี ได้เข้ามาศึกษาความจริงของชีวิต
จึงได้เป็นผู้เป็นคน ไม่เที่ยวเตร่ ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยวกลางคืน
ไม่เล่นการพนัน คนที่มีความเห็นผิดจะบอกว่าเมื่อเกิดมาแล้วต้องใช้ชีวิตให้คุ้มต้องเสพทุกอย่าง
เพราะไม่เจอครูดี นักเรียนอนุบาลฝันในฝันโชคดีมาก มีคุณครูไม่ใหญ่ มีคุณครูไม่เล็ก
และก็มีคุณครูน้อยๆอีกเยอะแยะ มาสลับกันให้ธรรมะให้เราบันเทิงใจ
มีความสุข นี่ก็คือสิ่งที่คุณครูไม่ใหญ่ท่านมอบให้
ซึ่งเป็นโอกาสที่เราจะได้พัฒนาในการทำหน้าที่เผยแผ่ความรู้เรื่องของ ความจริงของโลกและชีวิต
และชักชวนคนมาทำความดี มาบวช
เมื่อคนรับใช้ทั้ง 2
ฝ่ายพบกันได้พูดคุยกัน
จึงได้รู้ว่าเป็นจดหมายเจ้านายตัวเองจึงได้เปิดอ่านจึงรู้ว่าเจ้านายทั้งสองไม่ต้องการแต่งงาน
และได้เปลี่ยนข้อความในจดหมายทั้งสองฉบับว่ายินดีแต่งงาน
เมื่อทั้งสองแต่งงานกันแล้ว
ก็อยู่กันแบบเป็นพี่น้อง เขาแบ่งกันว่า ปิปผลิมาณพ ขึ้นเตียงด้านขวา ภัททกาปิลานี
ขึ้นเตียงทางด้านซ้าย ให้สัญญากันว่า วางดอกไม้ไว้กลางเตียง
แล้วอธิษฐานว่าถ้าใครมีราคะจิตขอให้ดอกไม้ฝั่งของตังเองเหี่ยวเฉา
ตลอดเวลาที่ทั้งสองอยู่ด้วยกันดอกไม้ไม่เหี่ยวเฉาเลย
อยู่ด้วยกันจนกระทั่งบิดามารดาของปิปผลิมาณพเสียชีวิต
วันหนึ่งปิปผลิมาณพขี่ม้าผ่านไปที่บริวารกำลังไถนา
มีฝูงนกมาลงในที่นา มากินไส้เดือน ท่านจึงถามบริวารว่าบาปจะตกกับใคร
บริวารตอบว่าตกแก่เจ้าของ จึงคิดว่าสมบัติที่ท่านได้มีบาปติดมาด้วย ท่านจึงคิดจะมอบสมบัติให้
ภัททกาปิลานี
ส่วนนางภัททกาปิลากำลังให้บริวารโปรยงา
มีฝูงนกมากินแมลงที่อยู่ในงา จึงถามบริวารว่าบาปกรรมจะตกกับใคร
บริวารตอบว่าตกแก่เจ้าของ นางคิดว่าสมบัติที่มีบาปติดมาเราไม่ปรารถนาเลย จึงตั้งใจมอบสมบัติให้ปิปผลิมาณพแล้วตนจะออกบวช
ทั้งสองปรึกษากัน
มีความคิดออกบวชเหมือนกัน จึงพากันออกบวชพร้อมกัน เดินออกจากบ้านพร้อมกันฝ่ายชายเดินนำหน้า
ฝ่ายหญิงเดินตามหลัง เมื่อถึงทางสองแพ่ง ฝ่ายหญิงก้มกราบ ทำเวียนประทักษิณ
แล้วทั้งสองท่านก็อธิษฐานจิตว่าบุญกุศลครั้งนี้ขออุทิศให้พระอรหันต์ในโลก
พระสัมมาสัมพุทธเจ้ารับรู้ได้ด้วยข่ายพระญาณ จึงออกมารอ เมื่อปิปผลิมาณพ
เดินมาพบก็รู้ว่านี่คือพระอรหันต์ จึงกราบขอบวช พระพุทธเจ้าทรงบวชให้แบบโอวาท ติสรณคมนูปสัมปทา เป็นการให้โอวาท 3 ประการแล้วสำเร็จเป็นพระภิกษุ
8 วัน ท่านจึงบรรลุเป็นพระอรหันต์ ส่วนนางภัททกาปิลานี ได้ไปอยู่สำนักของพระนางปชาบดีโคตมีเถรี
5 ปีได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์
ท่านทั้งสองได้บรรลุเป็นพระอรหันต์
เป็นความอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น ท่านเป็นต้นแบบของบุพเพสันนิวาสอย่างแท้จริง
ฝ่ายชายเมื่อบวชแล้วได้ชื่อใหม่ว่าพระมหากัสปะเป็นเลิศในด้านถือธุดงควัตร 12
ประการ ส่วนภัททกาปิลานีเป็นผู้ที่มีความเป็นเลิศในการระลึกชาติ
ท่านทั้งสองได้ประคับประคองสร้างบารมีกันมานับแสนกัป
เกิดเป็นสามีภรรยากันทุกภพทุกชาติ ที่มีจิตประพฤติพรหมเป็นเวลานาน
เมื่อกลับมาเกิดเป็นมนุษย์จึงไม่มีความยินดีในการครองเรือน
ในชาติก่อนที่จะบรรลุมรรคผลนิพพานทั้งสองท่านมักจะออกบวชประพฤติพรหมจรรย์จนชาติสุดท้ายแม้จะอยู่ร่วมกัน
แต่อยู่ด้วยกันแบบเป็นสามีภรรยากันแต่เพียงในนามเท่านั้น
จนในชาติสุดท้ายก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์
#ฝันในฝัน #โรงเรียนอนุบาลฝันในฝัน #โรงเรียนฝันในฝัน
#กฏแห่งกรรม
#ธรรมะ #แสดงธรรม
#นักเรียนอนุบาล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น